กษมา จิตร์ภิรมย์ศรี
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2556 รองโฆษกคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่เป็นคณะกรรมการภายใต้ พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 คณะกรรมการนี้มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ และมีหน่วยงานที่ทำงานหลักคือ ศอ.บต. มีคณะกรรมการประกอบด้วย
- เลขาธิการ ศอ.บต.
- ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส
- ประธานที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
- ผู้แทนจากกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และ กระทรวงพานิชย์
- เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ผลการประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2556 ที่คณะรัฐมนตรีได้รับทราบนั้น มีจำนวน 6 เรื่อง คือ
1. รายงานการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ
2. รับทราบข้อเสนอ กพต. ที่ขอให้การเลือกเฟ้นข้าราชการในพื้นที่ ยึดหลักความรู้ความสามารถและคำนึงถึงความเหมาะสม ไม่ควรส่งข้าราชการที่ถูกลงโทษหรือความประพฤติไม่ดีมาปฏิบัติงานในพื้นที่
3. รับทราบการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองยะลาและบ้านพักอาศัยของตุลาการและข้าราชการ วงเงิน 585 ล้านบาท
4. รับทราบการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ รวม 12,474 ราย วงเงิน 2,080 ล้านบาท แบ่งเป็น ผู้ได้รับความช่วยเหลือ 4 กลุ่ม คือ
1) ประชาชนทั่วไป
2) เจ้าหน้าที่รัฐ
3) ผู้ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ก่อเหตุรุนแรง
4) ผู้ที่ถูกควบคุมตัวหรือคุมขัง แต่ปรากฎว่าภายหลัง พบว่ามิได้เป็นผู้กระทำความผิด
5. รับทราบการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนสังคมพหุวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของนักเรียนในพื้นที่ และ
6. รับทราบการขอรับโอนโครงการนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจและกระตุ้นการสร้างงานในพื้นที่
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี ยังได้เห็นชอบ มติ กพต. 5 เรื่อง ดังนี้
1. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการรับคำขอสินเชื่อโครงการส่งเสริมสินเชื่อผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ออกไปจนถึง วันที่ 31 ธ.ค 56 เนื่องจาก โครงการดังกล่าวได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 31 มิ.ย 56 และเห็นชอบการขยายระยะเวลาก่อสร้างถนนหลวงหมายเลข 410 สายยะลา - เบตง วงเงิน 4,026,000 บาท
2. เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2556-2557
3.เห็นชอบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ วงเงิน 915,096,000 บาท และเห็นชอบให้เพิ่มเงินอุดหนุนรายบุคคลให้โรงเรียนเอกชนจากเดิมได้รับเงินอุดหนุน ร้อยละ 70 ให้เพิ่มเป็นร้อยละ 85 รวมทั้งเห็นชอบการก่อสร้างหอพัก อาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ทั้งยังเห็นชอบให้จ่ายเงินเยียวยาครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ รายละไม่เกิน 4,000,000 บาท รวมทั้ง เห็นชอบให้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษแก่พนักงานมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เดือนละ 2,500 บาทต่อคน ตั้งแต่ 1 ต.ค 51 ถึง 30 ก.ย 55 รวม 8,233,627 บาท
4. เห็นชอบให้เพิ่มอัตรากำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนหรือ อ.ส จาก 900 อัตรา เป็น 2,700 อัตรา เพื่อลดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจในพื้นที่และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งต้องใช้งบประมาณรวม 218,000,000 บาท และ
5. เห็นชอบการจัดสรรงบประมาณเพื่อเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบินนราธิวาส นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งที่ประชุม ครม. ว่า กระทรวงจะรับหน้าที่ดำเนินการส่งเสริมการเล่นกีฬาฟุตซอลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากที่ผ่านมา การเล่นฟุตซอล ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นช่วงมี่มีการแข่งขัน ทั้งนี้ กพต. มีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล 41 แห่งในพื้นที่ โดยใช้งบประมาณ 2,500 ล้านบาทเศษ[1]
จะเห็นได้ว่าการที่คณะรัฐมนตรีมีการติดตามในผลประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้เป็นเรื่องที่เร่งด่วนและต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมกับเสริมสร้างบรรยากาศของการพูดคุยสันติภาพที่ได้พูดคุยมาแล้ว 3 ครั้งแล้ว และครั้ง 4 ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ การเห็นชอบมติของ กพต. นอกจากเป็นเสริมสร้างบรรยากาศให้เอื้อกับการพูดคุยแล้ว ยังเป็นรุกทางการเมืองของทางรัฐไทยไปสู่ BRN อีกด้วย ดังนั้นการที่รัฐไทยรุกทางการเมืองในลักษณะนี้เป็นเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหาชายแดนใต้ได้เปลี่ยนแปลงจากวิธีการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้แบบทางการทหาร ไปสู่ “การเมืองนำการทหาร”อย่างแท้จริง