Skip to main content

ขอแสดงความเสียใจสำหรับครอบครัวญาติพี่น้องของน้องๆ ที่ได้จากไปหลังจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นใน จ. นราธิวาสเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เลวร้ายที่สุดเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ปาตานี/จังหวัดชายแดนใต้ เพราะผู้ร้ายยิงกราดใส่เด็กและสัตรีอย่างตั้งใจซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนที่อ่อนที่สุด 

ในความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรง เป้าหมายของการโจมตีมีสองประเภท ได้แก่ เป้าหมายแข็ง (hard target) และเป้าหมายอ่อน (soft target) เป้าหมายแข็งคือบุคคลที่มีความสามารถในการป้องกันตัวและการตีกลับ/ยิงกลับในเมื่อได้รับการโจมตี รวมไปถึง ทหาร ทหารพราน อส. ชรบ. และบุคคลที่พกพาอาวุธประจำตัว ในเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัด กลุ่มนี้เป็นเป้าหมายหลัก เพราะเป็นยุตศาสตร์ของฝ่ายขบวนการ เนื่องจากฝ่ายความมั่นคงพยายามที่จะปราบขบวนการโดยใช้ความรุนแรงเช่นเดียวกัน ในฐานะเป็นเพื่อนมนุษย์ ผมก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การโจมตีต่อกลุ่มนี้จะไม่สิ้นสุดตราบใดที่ความขัดแย้งยังไม่ถึงจุดจบ 

ส่วนเป้าหมายอ่อนคือกลุ่มคนที่ไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวและตีกลับ/ยิงกลับในเมื่อได้รับการโจมตี สตรีและเด็กถือว่าเป็นเป้าหมายที่ “อ่อน” ที่สุด ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าอยู่ในสภาวะความขัดแย้งหรือสภาวะสงคราม ไม่มีความชอบธรรม (legitimacy) ใดๆ ใน การโจมตีต่อกลุ่มนี้ ฝ่ายใดก็ตามที่กระทำเช่นนี้จะเสียความชอบธรรมทันที 

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้ร้ายตั้งใจจะยิงกราดเพื่อคร่าชีวิตของสัตรีและเด็ก ยังไม่มีข้อมูลแน่ัชัดว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของใคร อย่างไรก็ตาม กลุ่มประชาสังคมในพื้นที่ไม่ควรเงียบและหยุดนิ่ง ตรงกันข้าม ควรออกแถลงการณ์เพื่อแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับความเสียหาย ประนามผู้กระทำที่ไร้มนุษยธรรม และเรียกร้องทุกฝ่ายให้หลีกเลี่ยงการโจมตีต่อเป้าหมายอ่อน เรียกร้องให้ฝ่ายรัฐรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการสอบส่วนที่เป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือ เพื่อจับคุมผู้กระทำให้ได้รับบทลงโทษพอสมควร 

ถึงแม้ว่า สถานการณ์การเมืองที่กรุงเทพฯ อยู่ในความสับสน และรัฐบาลแค่เป็นรัฐบาลรักษาการก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลไม่ต้องสนใจความปลอดภัยของประชาชน แม้ว่าประชาชนนั้นอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางขนาดไหนก็ตาม การที่ปล่อยเหตุการณ์ “รายวัน” เกิดขึ้นอย่า่งต่อเนื่องในพื้นที่ปาตานี แค่ทำให้ความชอบธรรมของรัฐบาลยิ่งลดลง 

สื่อกระแสหลักก็ยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้าง “เฉยเมย” ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ความขัดแย้งในภาคใต้ โดยไม่เคยให้ความสำคัญแก่เหตุการณ์ “รายวัน” เหล่านี้ ยังมีสื่อบางรายที่ฟันธงตั้งแต่แรกว่า มันเป็นฝีมือของ “โจรใต้” แล้วผมก็อยากจะถามว่า “โจรใต้นั้นคือใคร” การรายงานแบบขอไปทีเช่นนี้ไม่อาจจะสร้างประโยชน์ใดๆ ต่อการถ่ายทอดข่าวสารที่ถูกต้อง ตรงกันข้าม แค่ทำให้คนนอกพื้นที่คิดว่า “มันเกิดขึ้นอีกแล้ว (เป็นธรรมดาของชายแดนใต้)” 

สิ่งที่น่าเสียดายอีกเรื่องหนึ่งคือ ยังมีผู้ใช้โซเซียลมีเดียหลายๆ คนที่โพสต์หรือแชร์ภาพของศพน้องๆ ที่ได้จากไปแล้ว การกระทำเช่นนี้ ไม่ว่ามีเจตนาอย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ ฝ่ายญาติพี่น้องให้ “ไฟเขียว” ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด เพราะคงจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของครอบครัวญาติพี่น้องของน้องๆ ด้วยเหตุนี้ ผมก็ขอเรียกร้องให้ทุกคนลบโพสต์หรือหยุดการแชร์ภาพเหล่านี้ เราควรให้เกียรติต่อความรู้สึกของครอบครัวเป็นหลัก

สุดท้ายนี้ ขออธิษฐานให้อัลลอฮฺคุมครองวิญญาณของน้องๆ ที่จากไป inna lillahi wa inna ilaihi rajiun...