Skip to main content

 

แถลงการณ์ต่อกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่บ้านบันนังกูแว อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
เรียกร้องให้มีการแสวงหาทางออกร่วมกันของรัฐ องค์กรภาคประชาสังคม
และประชาชน เพื่อยุติวงจรแห่งความรุนแรงด้วยแนวทางสันติวิธี

 

จากกรณีมีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่บ้านบันนังกูแว อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ในรอบสามเดือนที่ผ่านมาที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 เวลาประมาณ 19.45 นาฬิกา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้เดินออกมาจากพงหญ้าตรงข้ามมัสยิดบ้านบันนังกูแว อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กราดยิงชาวบ้านบริเวณหน้ามัสยิด เป็นเหตุให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย คือ นายซาการียา เฮงดาดา อายุ 58 ปี ถูกยิงที่ลำตัวและศีรษะ นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย คือ ด.ช.ฮามาน แม อายุ 12 ปี นายมาหามุ ฮะตะมะ อายุ 44 ปี และนายเซะ ผดุง อายุ 70 ปี ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยะลา ในที่เกิดเหตุพบรอยกระสุนปืนจำนวนหลายแห่งตามบริเวณมัสยิด นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้เก็บรวบรวมปลอกกระสุนอาก้า และเอ็ม 16 ได้จำนวนหลายสิบปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นพยานหลักฐาน

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 13.45 นาฬิกา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณทางโค้งในหมู่บ้านบันนังกูแว หมู่ 4 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ อส. และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวม 3 คน คือนายอับดุลฮากิม ดอรอเซะ อายุ 25 ปี อส.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและกล้ามเนื้อต้นขา นายอับดุลฮากัม ดอรอเซะ อายุ 21 ปี น้องชายนายอับดุลฮากิม บาดเจ็บที่ใบหน้ากระดูกกรามหัก และนายอาซือรี แมเราะ อายุ 26 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย

และเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 01.00 นาฬิกา มีคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ กราดยิงแล้วเผาบ้านชาวบ้าน 2 หลัง ในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านบันนังกูแว ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้ชาวบ้านสองสามีภรรยาเสียชีวิต 2 ราย บ้านเรือนเสียหาย รถยนต์โดนเผา 3 คัน ที่เกิดเหตุภายในบ้าน พบผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย คือ นายดอเลาะ ผดุง อายุ 66 ปี และนางมารีแย ผดุง อายุ 60 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยสภาพศพถูกยิงที่บริเวณศีรษะ และลำตัว ด้วยอาวุธปืนสงคราม ในพื้นที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า M16 ตกเกลื่อนกว่า 50 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้คนร้ายยังกราดยิงเข้าไปในบ้านของนายอับดุลรอมาน เฮงดาดา อาย 42 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย กระสุนฝังตามผนังบ้านกว่า 20 นัด ข้าวของในบ้านกระจัดกระจาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายยังได้ย่องเข้ามาใต้ถุนบ้านเพื่อเผาข้าวของ แต่ชาวบ้านช่วยกันดับเพลิงไว้ทัน หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหนีและโปรยตะปูเรือใบระหว่างเส้นทางเพื่อหลบหนี ทั้งนี้ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นบิดามารดาของนายฮาซัน ผดุง นักกิจกรรมเคลื่อนไหวภาคประชาสังคม และเป็นกรรมการของเครือข่ายบัณฑิตอาสาจังหวัดชายแดนใต้ (Insouth) ซึ่งเคยถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตามหมายจับพรก.ฉุกเฉินด้วย

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ขอประณามผู้ใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุร้าย โหดร้าย มุ่งประสงค์ต่อผู้บริสุทธิ์และสร้างความเสียหายต่อสาธารณะ และขอให้ผู้ก่อเหตุร้ายยุติการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ที่สร้างความหวาดกลัวและความไม่ปลอดภัยต่อสาธารณะชน การใช้ความรุนแรงไม่สามารถสร้างความชอบธรรมในการเรียกร้องความเป็นธรรมได้

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับความเสียหายจากความรุนแรงดังกล่าวทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและเหมาะสม อันเป็นการเยียวยาความเสียหายและความรู้สึกทางจิตใจของผู้ประสบเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ รัฐยังมีภาระหน้าที่ในการปรับปรุงแก้ไขมาตรการความปลอดภัยให้มีมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีการใช้อาวุธสงครามและวัตถุระเบิดที่มีอนุภาพรุนแรงและมีความถี่ของการก่อเหตุมากขึ้น ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมีความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุและสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ และปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยเคารพต่อหลักการของกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการใช้เครื่องมือทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างมาตรการเพื่อให้ยุติวงจรความรุนแรง ซึ่งหมายถึงการเปิดพื้นที่เพื่อการเจรจายุติการใช้ความรุนแรง การเปิดพื้นที่ประชาธิปไตยรับฟังแนวทางทางการเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจากผู้ที่เห็นต่าง ร่วมทั้งเปิดพื้นการพูดคุยที่ระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชนให้ได้ในที่สุด

 

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม

25 กุมภาพันธ์ 2557