Skip to main content
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
เผยแพร่วันที่ 24 กุมภาพันธ์  2557
 
 
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30 น.  ศาลแพ่งมีคำพิพากษาตามที่กองทัพบกยอมจ่ายเงินค่าเสียหายจำนวน 6.5 ล้านบาท  จากเหตุการณ์ที่พลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกครูฝึกหน่วยฝึกทหารใหม่ลงโทษด้วยวิธีการซ้อมทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย  โดยมีนางประเทือง เผือกสม มารดาของพลทหารวิเชียร เผือกสม เป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย  ต่อกระทรวงกลาโหม ที่ 1  กองทัพบก  ที่ 2 และสำนักงานยกรัฐมนตรี (ต้นสังกัดกอ.รมน.) ที่ 3  เป็นจำเลย
 
คดีนี้ เมื่อวันที่  24  พฤษภาคม 2555  มารดาของพลทหารวิเชียร  ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนทางละเมิดต่อหน่วยงานต้นสังกัดเนื่องจากเป็นกรณีละเมิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่  โดยครูฝึกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดของกองทัพบกได้ทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียรในระหว่างการฝึกทหารใหม่อย่างทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุให้ผลทหารวิเชียรถึงแก่ความตาย   จำเลยประสงค์ไกล่เกลี่ย และตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงินจำนวน 7,049,213 บาท แต่โจทก์ได้รับเงินก่อนการฟ้องคดีนี้แล้ว   500,000 บาท  คงเหลือเงินที่ต้องนำมาชำระให้โจทก์อีก 6,549,213  บาท  โดยกองทัพบก จำเลยที่ 2 และเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารครูฝึกได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาจ่ายให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ววันนี้  จึงได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลมีคำพิพากษาให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญายอมดังกล่าว  ทั้งนี้ ใช้เวลาในชั้นไกล่เกลี่ยและประนีประนอมยอมความนานถึง 1 ปี 9 เดือน เหตุที่เป็นเวลานานเนื่องจากต้องใช้เวลาในการดำเนินการตามระเบียบของหน่วยงานราชการหลายขั้นตอน  โดยกองทัพบกจะดำเนินการไล่เบี้ยเงินค่าเสียหายคืนจากเจ้าหน้าที่ทหารผู้กระทำความผิดต่อไป
 
ทั้งนี้  ในส่วนของคดีอาญาที่นางประเทืองได้แจ้งความดำเนินคดีกับครูฝึกทหารใหม่และทหารที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียรจนถึงแก่ความตายต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุแล้ว และเนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารทั้งหมด  ดังนั้นคดีจึงอยู่ในเขตอำนาจศาลทหาร  ซึ่งผู้เสียหายไม่สามารถฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้เอง  ตาม พรบ. พระธรรมนูญ ศาลทหาร 2498   มาตรา 49 ให้พนักงานอัยการทหารเท่านั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลทหาร   ปัจจุบัน  คดีอยู่ในระหว่างการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
 
พลทหารวิเชียร  เผือกสม  ได้เคยอุปสมบทเป็นพระภิกษุและศึกษาจนจบชั้นปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) คณะพุทธศาสตร์ สาขาวิชาศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ผลการเรียนเกียตินิยมอันดับ 1   และสำเร็จระดับปริญญาโท คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีผลการเรียนดีเยี่ยม เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2554 พลทหารวิเชียรได้สมัครเข้ารับการเกณฑ์ทหารและเข้าฝึกที่หน่วยฝึกทหารใหม่  ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  อำเภอเจาะไอร้อง  จังหวัดนราธิวาส  ต่อมาวันที่ 1 มิถุนายน 2554  เจ้าหน้าที่ทหาร  10  นาย  ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียร โดยทรมานและกระทำทารุณโหดร้าย โดยอ้างว่าพลทหารวิเชียร  เผือกสม  หลบหนีการฝึก  ทำให้พลทหารวิเชียร ได้รับบาดเจ็บสาหัส  และได้เสียชีวิตในวันที่ 5  มิถุนายน 2554  โดยสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
 
การลงโทษโดยทำร้ายร่างกายด้วยวิธีการทารุณโหดร้าย  นอกจากจะเป็นความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่งแล้ว  ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ม. 32  ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคล  และละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีและมีพันธกรณีให้ปฏิบัติตามอนุสัญญาฯดังกล่าวด้วย