Skip to main content

 โรงภาพยนตร์ยอดฟ้าสายบุรีแหล่งรวมวัยรุ่นหนุ่มสาวในยุคจิ๊กโก๋ขาบาน

            ถ้าเอ่ยชื่อโรงภาพยนตร์ยอดฟ้าสายบุรี เด็กๆสมัยนี้คงงงกันแน่ๆ และอาจเกิดคำถามที่ว่า สายบุรีนี้นะมีโรงหนัง สายบุรีเป็นเมืองเล็กๆนี่นา แล้วโรงหนังเป็นแบบไหน อยู่ส่วนไหนของสายบุรีกันละ สำหรับปัจจุบันใช่สายบุรีเป็นเมืองเล็กๆ แต่ในอดีตนั้นไม่ใช่เลย สายบุรีเป็นจังหวัดมาก่อนและมีความเจริญรุ่งเรืองมาก และโรงภาพยนตร์ยอดฟ้าก็เป็นหนึ่งในหลายๆสิ่งที่สามารถการันตีความเจริญของเมืองสายบุรีได้เป็นอย่างดี    

     จากคำบอกเล่าของคุณลุงดำริ จินดามณี หรือลุงคอลิค ลุงเป็นคนเชื้อสายจีนเกิดที่สายบุรีแห่งนี้ อายุ 63  ปี ลุงเคยทำงานเป็นผู้จัดการโรงหนังยอดฟ้าสายบุรีตั้งอยู่บริเวณ Toyota ปัจจุบัน จากคำบอกเล่าของลุงทำให้รู้ถึงบรรยากาศศูนย์รวมวัยรุ่นเมื่อประมาร 40 ปีที่แล้วได้เป็นอย่างดี ทุกๆเช้าประมาณ 8 โมงบรรดาแม่ค้าพ่อค้าเริ่มกางโต๊ะเปิดร้านค้าหน้าโรงหนัง สินค้าที่มาขายก็มีหลากหลาย  แต่ที่มีชื่อเสียงก็คงจะเป็นร้านขายส้มตำเล่ากันว่าแม่ค้าเป็นคนสวยชอบแต่งตัวและมักจะทาปากสีแดงจี๊ดจ๊าดทำให้โดดเด่นขึ้นมาทันที  ร้านขายขนมยอดฮิตอย่างฮานามิ ร้านขายลูกอมและเมล็ดแตงโม และที่ขาดไม่ได้เลยคือร้านน้ำชา ด้านหน้าของโรงหนังก็จะมีโต๊ะเล็กๆให้เหล่าวัยรุ่นทั้งชายและหญิงได้พูดคุยสังสรรค์ระหว่างรอดูหนัง บรรยากาศหน้าโรงหนังจะคึกคักเสมอเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาจากที่ต่างๆ  เมื่อเวลา 8.30 ใกล้เวลาฉายหนังผู้คนจากที่ต่างๆเริ่มต่อแถวซื้อตั๋วหนังทางด้านขวาของโรงหนัง ราคาตั๋วหนังประมาณ 10 บาท และ 2 บาทสำหรับเด็ก เมื่อเข้ามาในโรงผ่านประตูผ้าม่าน ภายในมีลักษณะเป็นชั้นครึ่งโดยครึ่งบนเป็นบริเวณของอุปกรณ์ฉายหนังและผู้ควบคุมอุปกรณ์ ด้านล่างมีเก้าอี้ไม้เรียงรายเป็นขั้นบรรได รองรับผู้ชมได้ประมาณ 100 คน ซึ่งจัดว่าไม่เล็กเลย ทุกๆวันจะฉายหนังที่ถูกส่งมาจากหาดใหญ่  โดยมีทั้งหมด 3 รอบ เวลา 9 โมงเช้า บ่าย 2 โมง และ 1 ทุ่ม แต่สำหรับวันพิเศษเช่น วันฮารีรายอจะเพิ่มอีก 1 รอบ คือ 4 ทุ่ม และช่วงเวลาที่มีหนังยอดฮิตเข้ามาก็จะเพิ่มจำนวนรอบเช่นกัน เช่น หนังอินเดียอย่างโชเล่ย์ที่ทำให้คนทั้งโรงต้องหลั่งน้ำตามาแล้ว วัยอลเวง สยามสแควและอีกมากมาย ลุงคอลิคยังเล่าพร้อมหัวเราะอีกว่านอกจากวัยรุ่นจากที่ต่างๆแล้วก็ยังมีเด็กนักเรียนที่ชอบหนีเรียนแอบมาดูหนัง ลุงบอกว่าบรรดาคุณครูจะถือไม้เรียวมาตามนักเรียนให้กลับไปเรียนอยู่เสมอๆ    

      ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานมากแล้วแต่ความทรงจำเกี่ยวกับโรงหนังแห่งนี้สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปีในสายบุรี ที่แห่งนี้คงเต็มไปด้วยเรื่องราวเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวเก่าๆที่อาจมีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา ความสุข หรือแม้กระทั้งความทุกข์ แต่สำหรับเด็กๆยุคใหม่ที่แห่งนี้เป็นอีกที่หนึ่งที่ทำให้จินตนาการถึงความเจริญสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี