Skip to main content

 กองบรรณาธิการสำนักข่าวอามานจับประเด็น แปล และเรียบเรียง
http://voicepeace.org

สื่อมวลชนของมาเลเซียหลายสำนักรายงานข่าวว่า  จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียในบ้านเช่าตั้งอยู่ในหมู่บ้าน แกแบ็ง เขตอำเภอปาเซมัส รัฐกลันตันเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลมาเลเซียตระหนักถึงภัยความมั่นคงที่เกิดจากปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้าน

 

ดาโต๊ะ สือรี ดร.อัฮหมัด ซาฮีด ฮามีดี รัฐมนตรีกลาโหม มาเลเซียได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า รัฐบาลมาเลเซียจะไม่ยอมให้กลุ่มเคลื่อนไหวใดใช้พื้นที่ของมาเลเซียในการดำเนินกิจกรรมใดๆ หรือใช้มาเลเซียเป็น “ฐาน”เพื่อก่อการร้ายต่อประเทศอื่น 

การแสดงจุดยืนดังกล่าวสอดคล้องกับข้อปฏิบัติตามกฎอาเซียนในการร่วมมือกันในด้านการสกัดกั้นแผนการก่อการร้ายที่จะเกิดขึ้น

“ดังนั้นการตรวจตราอย่างเข้มงวดจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดน เพื่อมั่นใจว่าจะไม่มีการดำเนินกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวกับการก่อการร้ายจะต้องไม่เกิดขึ้น ถ้าหากมีหรือไม่มีการโยนไปเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ แน่นอนที่สุดมันจะต้องไม่เกิดขึ้น” รัฐมนตรีกลาโหมกล่าว

รัฐมนตรีกลาโหมของมาเลเซียกล่าวหลังจากที่สื่อมวลชนถามถึงการคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากพบระเบิดแสวงเครื่องในบ้านเช่าในพื้นที่อำเภอปาเซมัส กลันตันเมื่อเร็วๆนี้

ตามรายงานข่าวระบุว่าคนไทยเชื้อสายมลายูที่ถูกตำรวจมาเลย์จับคาบ้านพร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิดทั้ง 3 รายเป็นชาวนราธิวาส ของกลางนอกจากอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดแล้วยังมีทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 อาก้า พร้อมเครื่องกระสุน และไดนาไมท์กว่าร้อยแท่ง รวมทั้งปุ๋ยยูเรีย ซึ่งรายชื่อทั้ง 3 คนที่ถูกจับนั้น ประกอบด้วยนายมูฮำหมัดฟาโร บินยาการียา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายมะยูไน บินเจ๊ะดอเลาะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และนายสารี มูฮำหมัด บินอับดุลฮาสิ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 5 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

หลังทางการมาเลเซียจับกุม  3 คนไทยพร้อมอาวุธสงครามล็อตใหญ่ มีรายงานข่าวว่าฝ่ายความมั่นคงของไทยรับลูกทันควันด้วยการตั้งด่าน ปิดล้อม และกดดันกลุ่มขบวนการใต้ดินในพื้นที่ 4 อำเภอตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย

นายอัฮหมัด ซาฮีด รัฐมนตรีกลาโหมของมาเลเซียกล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านความมั่นคง การพบวัตถุระเบิดจะไม่ก่อให้เกิดการคุกคามใดๆ ต่อประเทศมาเลเซีย และการสืบสวนสอบสวนกำลังดำเนินการโดยฝ่ายตำรวจ

“รัฐบาลจะต้องให้ความมั่นใจว่า การผลิตระเบิดแสวงเครื่องขยายกว้างเพื่อรับรองในความปลอดภัยของในประเทศ”

เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยตามแนวตะเข็บชายแดน  รัฐมนตรีกลาโหมกล่าวว่าการควบคุมและการลาดตระเวนในรูปบูรณาการสามฝ่ายคือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย และกองกองทัพมาเลเซีย โดยป้องกันการลักลอบเข้ามาของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโดยเฉพาะในทางภาคใต้ของไทย

“ผมเชื่อว่าการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะสือรี นายิบ ตุนราซัก ในต้นเดือนที่ผ่านมา ได้สร้างความไว้วางใจระหว่างมาเลเซียกับไทยเพื่อปฏิบัติการร่วมและร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้”

ทางด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของมาเลเซีย ดาโต๊ะสือรี ฮีซามมุดดีน ตุนฮุเซน กล่าวว่าทุกฝ่ายรวมถึงฝ่ายค้านต้องให้ความสนใจอย่างจริงจังในเรื่องการพบวัตถุระเบิดในครั้งนี้ เพราะแสดงให้เห็นว่าประเทศชาติกำลังกำลังเผชิญและถูกคุกคามจากการก่อการร้าย    โดยที่ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อสร้างสถานการณ์ทางการเมือง

ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนผู้ต้องหาทั้งสามคนว่าระเบิดที่พบนั้นจะเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ใด  และมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มเคลื่อนไหวใดๆ  ทั้งที่เป็นคนมาเลเซียและต่างประเทศ

นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงรายหนึ่งของมาเลเซียตั้งข้อสังเกตว่า การตรวจคนพื้นที่เป้าหมายในครั้งนี้ อาจจะเป็นคำสั่งจากเบื้องบนของมาเลเซีย เพื่อเตือนกลุ่มขบวนการที่ใช้พื้นที่มาเลเซียเคลื่อนไหวตระหนักว่า การก่อการร้ายโดยใช้กำลังอาวุธมิใช่ทางออกของการแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ โดยเฉพาะการที่กลุ่มขบวนการได้ก่อเหตุความไม่สงบในช่วงการเดินทางเยือนจังหวัดนราธิวาสของนายนายิบและนายกฯอภิสิทธิ์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา

เพื่อนบ้านจะไม่หลับนอนอย่างสนิท ตราบใดที่เพื่อนบ้านยังมีเสียงระเบิดและปืนดังทุกวี่วันโดยมีชีวิตเป็นเดินพัน.