ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี ศูนย์เฝ้าระวังเชิงองค์ความรู้สถานการณ์ภาคใต้ |
คลื่นความรุนแรงยุคใหม่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 38 เดือนแล้ว นับตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2547 ถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 พื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาสและบางส่วนของจังหวัดสงขลาได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่รวมทั้งการฆ่ารายวัน การวางระเบิด การวางเพลิงและการก่อเหตุก่อกวนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การก่อความไม่สงบจำนวนรวมทั้งสิ้น 6,214 ครั้ง ในเหตุการณ์ทางเมืองดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 5,378 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิต 2,088 คนและผู้บาดเจ็บ 3,290 คน
จุดเด่นของสถานการณ์ความรุนแรงในขณะนี้ก็คือ เหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจาก 5 เดือนของการรัฐประหารในเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 และการตั้งรัฐบาลใหม่ที่นำโดยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นับเป็นคลื่นความรุนแรงรอบใหม่ที่เริ่มไต่ระดับนับตั้งแต่ภายหลังการรัฐประหารดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากระดับความรุนแรงหลังการรัฐประหารเดือนกันยายนที่ลดลงในเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 เหลือ 86 ครั้งในเดือนดังกล่าว จากนั้นก็สูงขึ้นเล็กน้อยในเดือนตุลาคมกลายเป็น 104 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายนกระแสคลื่นเหตุการณ์ความรุนแรงเริ่มพุ่งสูงโด่งอีกครั้งประมาณ 208 ครั้ง และในเดือนธันวาคมปี 2549 เหตุการณ์ความรุนแรงยังอยู่ในระดับสูง 193 ครั้ง เมื่อเริมศักราชใหม่ปี พ.ศ. 2550 เหตุการณ์ในเดือนมกราคม แม้จะลดลงเล็กน้อยแต่เหตุการณ์ยังนับว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงถึง 132 ครั้ง ซึ่งนับว่ายังสูงมากสำหรับเหตุการณ์ในช่วงต้นปี ก่อนหน้านี้ในช่วงปี พ.ศ. 2547-2549 ช่วงต้นปีเหตุการณ์จะไม่สูงมากเท่านี้ แสดงให้เห็นพลังของการใช้ความรุนแรงที่น่าจะมีระดับสูงขึ้นในปี พ.ศ. 2550 เหตุการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมายืนยันให้เห็นแนวโน้มดังกล่าวโดยกระแสความรุนแรงของเหตุการณ์ที่สูงมากถึง 210 ครั้ง
กล่าวโดยสรุป สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบัน หลังการรัฐประหารในเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ผ่านมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว สถานการณ์ในพื้นที่ยังมีแนวโน้มไปในทางรุนแรงมากยิ่งขึ้นทั้งๆที่นโยบายรัฐบาลในปัจจุบันมุ่งเน้นการส่งสัญญาณเชิงสมานฉันท์ไปสู่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และใช้ความประนีประนอมกับการแก้ปัญหาในด้านชาติพันธุ์และศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลยังคงจะต้องมุ่งหน้าแก้ปัญหาตามแนวทางดังกล่าวต่อไปโดยเฉพาะการตั้งโครงสร้าง ศอ.บต. ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนนโยบายการเมืองนำการทหารในการแก้ปัญหาภาคใต้ และให้การสนับสนุนด้ายงบประมาณและบุคลากรอย่างเต็มที่เพื่อการทำงานแก้ปัญหาเชิงรุกทั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี การที่ระดับความรุนแรงยังไม่ลดลง อาจจะเป็นเพราะการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ในตัวของมันเองมีตรรกะเหตุผลรองรับ โดยเฉพาะในด้านการคุกคามความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเพื่อให้เกิดความกลัว และทำลายอำนาจการควบคุมของรัฐและระบบบริหารราชการในทุกระดับ การกระทำดังกล่าวยังมีผลในด้านการขยายตัวขององค์กรเครือข่ายและผู้สนับสนุนในพื้นที่ แม้ว่าประชาชนส่วนมากจะไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง แต่การก่อความรุนแรงสะเทือนขวัญมีจุดมุ่งหมายการเมืองของตนที่ไม่เปิดเผย การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการดำเนินนโยบายปฏิรูปการบริหารและการปกครอง และเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการพัฒนาสังคมอย่างรอบด้าน การที่เหตุการณ์ยังขยายตัวออกไปยืนยันให้เห็นปฏิบัติการความรุนแรงเองมีระบบ มีการจัดการ การเตรียมการและกำหนดเป้าหมายและการเตือนล่วงหน้าอย่างค่อนข้างชัดเจนและเป็นระบบ รวมทั้งมีชุดของแนวความคิดรองรับอยู่ด้วย การแก้ปัญหาจึงยังคงต้องระมัดระวังและเน้นการทำงานบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาปมใหญ่คืออัตลักษณ์และความเป็นธรรมอย่างเป็นระบบและขจัดเงื่อนไขสงครามให้ได้