Skip to main content

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม

 

นัดฟังคำสั่ง 17 ตุลาคม 2557

สิ้นสุดนัดสืบพยานคดีไต่สวนการตาย กรณีวิสามัญฆาตกรรม 4 ศพ

ที่บ้านสะแนะ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาสเหตุเกิดวันที่ 5 ต.ค. 2557

 

            วันนี้ (12 กันยายน 2557)  ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนดให้วันที่ 17 ตุลาคม 2557 เวลา 9.00 น. เป็นวันนัดฟังคำสั่งคดีไต่สวนการตาย (ชันสูตรพลิกศพตามมาตรา 150)       คดีหมายเลขดำที่ ช.1/2557  ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาสได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2557  ขอให้ศาลทำการไต่สวนการตายของบุคคล 4 คน ได้แก่ นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ  นายพือลี แมแล  นายสูเพียง สาและ  และนายอุสมาน เด็งสาแม  ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556  กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้น และจับกุม กลุ่มบุคคลผู้ต้องสงสัยในหมู่บ้านสะแนะ หมู่ที่ 1  ต.เรียง  อ.รือเสาะ  จ.นราธิวาส

สืบเนื่องมาจาก เหตุการณ์เมื่อวัน 5 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) จำนวนหลายสิบนาย นำโดย พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย นำกำลัง เข้าปิดล้อม ตรวจค้น และจับกุมกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ ในหมู่บ้านสะแนะ หมู่ที่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ  จ.นราธิวาส  โดยขอกำลังสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่จากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30  ภายใต้การใช้บังคับกฎอัยการศึก แล้วเกิดเหตุยิงปะทะกัน นำมาซึ่งการเสียชีวิตของนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ  นายพือลี แมแล  นายสูเพียง สาและ  และนายอุสมาน เด็งสาแม  ตามคำร้องของพนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาส ที่ขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพ

ญาติของผู้ตาย 2 ราย มีความเคลือบแคลงใจว่าเจ้าหน้าที่กระทำการเกินกว่าเหตุหรือไม่ ในการทำให้นายสูเพียง สาและ  และนายอุสมาน เด็งสาแม  เสียชีวิต  เนื่องจากผู้ตายทั้งสองรายนี้ได้ออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่โดยปราศจากอาวุธและไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด อีกทั้งยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการดังกล่าวควบคุมตัวอยู่ ถูกพันธนาการด้วยการใช้สายพลาสติกมัดข้อมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันและถูกนำตัวออกมาภายนอกบริเวณบ้านหลังที่เกิดการยิงปะทะกันแล้ว  ซึ่งผู้ตายทั้งสองไม่ได้มีส่วนร่วมในการยิงต่อสู้ดังกล่าว   ขณะเกิดการยิงปะทะกันทำให้เจ้าหน้าที่ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุหนึ่งนาย และอีกหลายนายได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่เสียชีวิตทั้งหมด สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว  แต่เหตุใดจึงมีการจัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งควบคุมตัวนายสูเพียง สาและ ขณะที่ถูกมัดมืออยู่ เข้าไปภายในบ้านที่เกิดเหตุโดยอ้างว่าพาไปดูศพผู้ตาย  และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดหนึ่งควบคุมตัวนายอุสมาน เด็งสาแม  ขณะที่ถูกมัดมืออยู่ เข้าไปในสวนยางพาราหลังบ้านที่เกิดเหตุโดยอ้างว่าพาไปตรวจค้นอาวุธ        

ต่อจากนั้นนายสูเพียง และนายอุสมาน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้ตัดสายพลาสติกมัดมือให้ทั้งสองคนระหว่างที่ควบคุมตัวเข้าไปในที่เกิดเหตุ แล้วนายสูเพียงได้ไปนำเอาระเบิด    ส่วนนายอุสมานไปนำเอาอาวุธปืน มาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่แต่ละชุดจึงจำเป็นต้องป้องกันตัวโดยยิงนายสูเพียงเสียชีวิตบนบ้าน และยิงนายอุสมานเสียชีวิตในบริเวณสวนยางพารา   ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ญาติผู้ตายทั้งสองเคลือบแคลงสงสัยอย่างยิ่งในพฤติการณ์ที่เจ้าหน้าที่ฆ่าผู้ตายทั้งสอง     และเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ขัดต่อหลักเหตุผลและผิดปกติวิสัยของการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในขณะเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าเป็นกลุ่มคนร้าย

ดังนั้นญาติของนายสูเพียง และนายอุสมาน ผู้ตาย     จึงได้แต่งตั้งทนายความเข้าไปในคดีไต่สวนการตายดังกล่าว เพื่อให้ทนายความได้ซักถามข้อเท็จจริงให้กระจ่างจากพยานหลักฐานที่พนักงานอัยการนำมาสืบในศาล และให้ทนายความนำพยานหลักฐานของญาติผู้ตายเข้ามาสืบเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบของญาติผู้ตาย ตามหลักกฎหมายว่าด้วยการชันสูตรพลิกศพ  

ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้ทำการไต่สวนพยานหลักฐานในวันที่ 10 กุมภาพันธ์  วันที่ 9, 16, 30 มิถุนายน  และ วันที่ 8, 11, 12 กันยายน 2557  โดยสืบพยานบุคคล ฝ่ายพนักงานอัยการจำนวน 11 ปาก และฝ่ายญาติผู้ตาย จำนวน 3 ปาก  เมื่อสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลจึงกำหนดวันนัดฟังคำสั่งในวันที่ 17 ตุลาคม 2557

ญาติของนายสูเพียง สาและ  และญาติของนายอุสมาน เด็งสาแม  ยืนยันว่าจะดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้ตายและครอบครัวให้ถึงที่สุดต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบร่วมกับทนายความที่ทางมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม มอบหมายให้มาช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ญาติผู้ตายทั้งสองต่อไป