เผยแพร่วันที่ 25 กันยายน 2557
ยื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อ้างอำนาจกฏอัยการศึก ข่มขู่สื่อท้องถิ่น จ. ปัตตานี
วันนี้ วันที่ 25 กันยายน 2557เวลา 13:00น.ตัวแทนองค์กรสิทธิมนุษยชนและองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้จะรวมตัวกันไปยื่นหนังสือถึงผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร เมืองปัตตานี ทั้งนี้เกิดจากเหตุการณ์เข้าลักษณะข่มขู่และคุกคามสิทธิเสรีภาพในเนื้้อตัวร่างกายของนักกิจกรรมด้านสื่อมวลชน โดยมีการบังคับให้ประทับลายนิ้วมือ และการบังคับให้ลงชื่อในเอกสารสมัครใจในการตรวจสารพันธุกรรม เป็นการใช้อำนาจกฎอัยการศึกโดยพลการ โดยไม่มีเหตุจำเป็น อีกทั้งมีการข่มขู่ด้วยวาจา แม้ว่านักกิจกรรมทั้งสี่คนไม่ได้อนุญาตให้ตรวจสารพันธุกรรมแต่อย่างใด ทั้งนี้การคุกคามนักกิจกรรมที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีอย่างต่อเนื่องและหลายรูปแบบ เช่น การฟ้องคดีหมิ่นประมาท การข่มขู่ฆ่า การค้นบ้าน การค้นหอพัก การข่มขู่ด้วยวาจาให้ร่วมมือในการทำงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง การเรียกหรือเชิญตัวเขาไปพบในค่ายทหาร เป็นต้น
นายทวีศักดิ์ ปิ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 6 ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ผู้สื่อข่าวจาก สถานีวิทยุมีเดียสลาตัน ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557 เวลาประมาณ 15.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่ามาจากฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองปัตตานี จำนวน 5 นาย โดยมีรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมค สีประตู หมายเลขทะเบียน กจ 7281 สงขลา สีดำ จำนวน 4 นาย โดยมีสิบตำรวจเอกชัยวัฒน์ คมเขียว แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ ขอตรวจค้นบ้านพักของนายทวีศักดิ์ ในขณะที่นายทวีศักดิ์ อยู่กับเพื่อนรวม 4 คน โดยอ้างว่าเป็นการตรวจค้นตามกฎอัยการศึก และไม่ได้ให้เหตุผลความจำเป็นหรือเหตุต้องสงสัยในการกระทำความผิดใดๆ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้บังคับจับมือนายทวีศักดิ์และเพื่อนเพื่อทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงทั้งสิบนิ้ว และขอตรวจเก็บสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) โดยเฉพาะหัวหน้าชุด (ไม่ทราบชื่อ) มีพฤติกรรมข่มขู่ บังคับให้ลงลายมือชื่อ ในเอกสารที่มีข้อความให้ความยินยอมในการตรวจเก็บสารพันธุกรรม
ทั้งที่นายทวีศักดิ์และเพื่อนไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ผู้เสียหายทางอาญา และไม่ได้ให้ความยินยอมให้เก็บสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) แต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ และเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีเจตนาทำให้ได้รับความเสียหาย อีกทั้งการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างอำนาจตามกฎอัยการศึกโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ด้วยและมิได้แสดงการได้รับการมอบหมายใดๆจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกดังกล่าวแต่อย่างใดๆ