ต้องขออภัยที่เขียน หรือลงรูปภาพนี้
วันนี้ มีโอกาสเข้าปัตตานี ผ่านไปถนนเส้นหนึ่ง เป็นยูเทิร์นโรงน้ำแข็งบ้านดี .. สายตามเหลือบไปเห็น ป้ายใหญ่ ป้ายหนึ่ง (ถ้าผมเดาไม่ผิด) เหมือนกับผู้นำศาสนา 3 เสาหลักของเมืองปัตตานี
เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องราวที่เห็น มันคงจะบรรยายในเรื่องของกระบวนการสันติภาพ ไม่ได้แน่ๆ สันติสุข จะเกิดขึ้นโดยการกระทำที่ไม่ให้เกียรติคนต่างศาสนิก กระนั้นหรือ หากนิ่งเฉย หรือดูดาย มันคงไม่ใช้คำตอบ ของการอยู่ร่วมกันได้อย่างแน่นอน
ใจเขา ใจเรา ครับ
นายรักษ์ชาติ สุวรรณ์ กลุ่ม ชน "พุทธ" กลุ่มน้อย กล่าวว่า จากภาพที่เห็น ทำให้เราพอจะรู้ได้ว่า กระบวนการสันติภาพ หรือสันติสุข ที่เราเพียรพยายามทำกันอยู่ มันไม่ได้ขยายตัว หรือขยายวง ไปถึงไหน ทำไมถึงคิดแบบนี้ ก็เพราะมองว่า หากขบวนการสันติภาพ หรือสันติสุข ที่เรากำลังตั้งใจทำกันอยู่ มันสามารถขยายเครือข่าย หรือสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน หรือชาวบ้าน ได้ เหตุการณ์ดังในภาพคงไม่เกิดขึ้น หากเราจะมองว่า เป็นเพียงกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มต่อต้าน อะไรบางอย่าง เราก็สามารถมองได้เช่นกัน ถามว่า คนพุทธ รู้สึกอย่างไร ก็สามารถตอบได้ในทันทีว่า มันคงไม่ดีแน่ ความรู้สึกของเราก็เสียหายไปมากพอสมควร หรืออาจจะมีการตั้งคำถามออกมาว่า ทำไปเพื่ออะไร สิ่งที่ทำเป็นการส่งสัญญาณอะไรให้เราคิดหรือไม่ แต่ก็ได้แต่คิดกันไป
ศาสนาพุทธสอนให้เรานิ่ง สอนให้เราเข้าใจในสิ่งต่างๆ ได้ง่าย
สิ่งที่เกิดขึ้น คงทำให้คนพุทธ มีความนิ่ง สงบ ในทางพุทธคือ มารผจญ เท่านั้นเอง ครับ
ด้าน ลม้าย มานะการ คณะทำงาน เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า มีโอกาสได้พูดคุยกับพระอาจารย์ ท่านหัวเราะน้อย ๆ ด้วยเสียงแห่งความเมตตา บอกว่า " ช่างเขา เราไม่ต้องใส่ใจ ทำใจให้เฉย ๆ ไม่ต้องสนใจ เราทำจิตเราให้นิ่งและไม่วุ่นวาย ใครทำอะไรได้รับสิ่งนั้น " สมกับเป็นพทธทาสแท้จริง ...สาธุค่ะ พระอาจารย์ จิตข้าพเจ้าอ่ิมเอิบขึ้นฉับพลัน
นึกถึงเปรียบเทียบ คำสอนของแม่เฒ่า (ยาย) ที่บอกเรื่องการถูกนินทาว่าร้าย ว่า ต้องมีสตินะลูก อย่าว่าแต่มนุษย์เดินดินเลย "แม้แต่องค์พระปฏิมายังราคิน"
นึกถึงนิยายเรื่องหลวงตา เวลาญาติโยมทุกข์ร้อน ท่านบอกว่า " เย็นไว้โยม"
นึกถึงอาจารย์นอรเบิร์ทที่ประสาทวิชาการสร้างสันติภาพ ที่่สอนไว้บทหนึ่งว่า ในกระบวนสันติภาพ ย่อมมี peace spoiler
ในภาษาอังกฤษ spoiler ข้าพเจ้าถามอากู่๋ อาบอก เป็นคำนาม แปลว่า ผู้แข่งขันที่ทำลายการชนะของคู่ต่อสู้
ในพุทธศาสนา เราเรียก "มาร" ในพี่น้องมุสลิม เรียก ไซฏอน ใช่ไหมคะ
ในพจนานุกรมไทย น่าจะ หมายถึง ซาตาน ซึ่งแปลได้หลายความหมาย เช่น ผู้ขัดขวาง , ซาตานเป็นศัตรูของพระเจ้า ,ศาสนาคริสต์ เป็นต้นตอของความชั่วร้าย
ในนิยายของ นันทนา วีระชน ซาตานคือ มารความรัก เป็นผู้ขัดขวางไม่ให้คนรักกัน คนทั่วไปอาจเรียก นางอิจฉา หรือผู้ร้าย แถวบ้านข้าพเจ้า เรียก ตัวเบียน หรือตังโกง
ให้อภัยเขาเถอะ จงรักเขา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา (การวางเฉย ฯ) เหมื่อนที่พระอาจารย์ว่านะคะ ในความโง่เขลา เบาปัญญาของเขา เพระาในนิยาย ซาตาน มักพ่ายแพ้ให้กับความรัก ในชีวิตจริง ข้าพเจ้าก็ เชื่อเช่นนี้ ...ตลอดมา
ขอบคุณคนที่ทำลายภาพนี้ มันทำให้ดิฉัน ตั้งจิตที่แน่วแน่ และบรรลุธรรม ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ
