แถลงการณ์ของกลุ่มฮิวแมนไรท์วอชอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2557 เมื่อทหารพรานหน่วย ร้อย ฉก.ทพ. นราธิวาส 4916 ยิงดช.มูฮัมหมัดอาซูวัน ซอเฮาะ ขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านด่านที่ อ.ศรีสาคร หลังจากนั้นผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า อส.ทพ.เอกพจน์ สามานสวน ได้นำอาวุธปืนขนาด 11 มม.ไปวางไว้ในมือของดช.มูฮัมหมัดอาซูวันด้วย
ผู้อำนวยการของกลุ่มฮิวแมนไรท์วอชบอกว่า ทางการไทยกำลังเจอบททดสอบที่แจ่มชัดว่าจะจับกุมและเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษหรือไม่ หากไม่ทำจะยิ่งเป็นการตอกย้ำความเห็นทั่วไปในหมู่คนไทยเชื้อสายมลายูว่า เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงของไทยนั้นแตะต้องไม่ได้ และสามารถจะกระทำผิดได้โดยที่ไม่ต้องรับโทษ พร้อมกันนั้นยังได้ท้าวความถึงคำมั่นสัญญาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเคยให้ไว้ในช่วงเข้ารับตำแหน่งว่า หากมีหลักฐานชัดเจนก็พร้อมจะลงโทษผู้กระทำผิดในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคใต้
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ไทยอ้างว่า การลงมือดังกล่าวเป็นการป้องกันตัวเองเพราะเข้าใจว่ามีฝ่ายตรงข้ามจะเข้าโจมตี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มอบเงินห้าแสนบาทชดเชยให้กับครอบครัว แต่ฮิวแมนไรท์วอชชี้ว่า การจ่ายเงินชดเชยไม่ได้หมายถึงว่ารัฐบาลหมดภาระในอันที่จะต้องนำตัวผู้กระทำมาลงโทษ และแถลงการณ์กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีการลงโทษทางวินัย อส.ทพ.เอกพจน์หรือทหารพรานจากหน่วยดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีอีกข่าวที่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงใส่ยานพานะของพลเรือนอีกจนทำให้มี เด็กหญิงวัยสิบขวบเสียชีวิต จากเหตุการณ์เมื่อ 23 ตค.ที่ผ่านมาที่ตำบลบาเระใต้ อ.บาเจาะ นราธิวาส ครอบครัวของนายรอมือซี แตเมาะ พ่อแม่และลูกสี่คนขับรถบรรทุกวิ่งผ่านด่านและถูกยิง ดญ.ไฮซูลา แตเมาะ อายุสิบขวบเสียชีวิต ในขณะที่พ่อ แม่และน้องต่างบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ทหารรายงานทางวิทยุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการซุ่มโจมตีของผู้เห็นต่างจากรัฐ แต่หลังจากที่มีผู้คนในพื้นที่ตั้งคำถามและเรียกร้องให้มีการสอบสวน ผู้บัญชาการทหารนายหนึ่งยอมรับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ยิงเหตุเพราะเข้าใจผิดคิดว่ามีผู้ก่อเหตุขับรถคันดังกล่าว
ฮิวแมนไรท์วอชระบุว่า ในภาคใต้ เจ้าหน้าที่ไทยก่อเหตุยิงประชาชนที่ไม่มีอาวุธหลายเหตุการณ์แล้ว พร้อมกับระบุว่า ได้เคยเรียกร้องทางการไทยหลายครั้งให้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามใช้วิธีแก้ปัญหาที่ไม่ใช้กำลังก่อน และหากจำเป็นให้พยายามใช้กำลังให้น้อยที่สุด และยังเรียกร้องเรื่อยมาให้ยกเลิกการใช้ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาตรา 17 ในกฎหมายฉบับนี้ปกป้องเจ้าหน้าที่จากการที่จะต้องรับโทษจากการกระทำผิดใดๆ และยังกำหนดให้เป็นภาระของผู้ร้องเรียนที่จะต้องพิสูจน์ว่าตนเองถูกละเมิดจริง นายแบรด อาดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอชบอกว่า การปล่อยให้มีการทำผิดโดยไม่ลงโทษเท่ากับเป็นการขยายผลความไม่พอใจ ทำให้มีการแก้แค้นกันต่อไปเรื่อยๆ และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลได้นำเรื่องนี้มากล่าวอ้างโดยตลอดว่าเป็นเหตุผลในการทำร้ายประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง
ส่วนในภาพ คือการแถลงข่าวเรื่องผลการสอบสวนคดียิงเด็กวัยสิบสี่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยพล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส