ครอบครัวพัง...จิตใจบอบช้ำ...เพราะคำครหา..จากสังคม
...ใบหน้าและแววตา ของลุงอวยชัย แซ่จง อายุ 60 ปี บ่งบอกถึงความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก หลังจากสูญเสียภรรยาคู่ชีวิต พร้อมด้วยลูกสาวอีกคน จากเหตุถูกคนร้ายประกบยิงจนเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับจากซื้อกับข้าวที่ตลาดนัดอัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 15 พย.57 ที่ผ่านมา...
เมื่อวันที่ 13 ธค.57 คณะทำงานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้เดินทางไปเยี่ยม พร้อมทั้งให้กำลังใจกับลุงอวยชัย และครอบครัว ซึ่งยังมีนายน่าชม แก้วเทพ ผู้เป็นลูกเขย ที่ตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน ก็คือสูญเสีย ภรรยา คือลูกสาวของนายอวยชัย ไปพร้อม ๆ กับผู้เป็นแม่
บ้านของลุงอวยชัย อยู่เข้าไป ในหมู่บ้านชุมชนพัฒนา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา อยู่ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ ของเทิอกเขา ต้นไม้ และยอดเขา
...เชื่อหรือไม่ว่า ... เราต้องตกใจ เมื่อเดินทางไปถึงบ้านของลุงอวยชัย....
เพราะบ้านของลุง สะอาดมาก เป็นบ้านชั้นเดียวขนาดเล็ก ลักษณะครึ่งไม้ ครึ่งปูน ตั้งอยู่ริมเชิงเขา มีลานหญ้า หน้าบ้าน ที่กว้างพอจะตีกอล์ฟออกกำลังกาย หรือ กางเต็นท์นอนได้ เกือบ 10 หลัง พื้นหญ้าที่กว้าง ยังจะสะอาดตา ไม่มีแม้แต่ใบไม้
ข้างบ้านมีบ่อเลี้ยงปลา ทั้งปลาคาฟ ปลาจีน ตัวเท่า ๆ ขา จำนวนหลายตัว ติดกับหลังบ้าน เป็นศาลา รับลม รับแขก ที่มาเยี่ยมเยือน ซึ่งทราบว่า ลุงอวยชัย สร้างขึ้นเองทั้งหลัง ใต้ศาลา เป็นห้องนอนรับแขกอีก 1 ห้อง...
....ซึ่ง หากว่า ลุงอวยชัย ไม่ต้องเจอกับความสูญเสีย ครอบครัวของลุงอวยชัย จะมีความสุข บนความเป็นอยู่ที่พอเพียง ที่ลุงอวยชัย และภรรยา ตัดสินใจหยุดทำอาชีพไกด์ที่ทำมานาน 11 ปี และกลับมาอยู่กับสวนยางพารา อีก 11 ปี เพื่อสร้างครอบครัว
....พื้นฐานของลุงอวยชัย แกเป็นคนเชื้อสายจีน พ่อแม่ของลุงอวยชัย เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่มาสร้างรากฐาน ครอบครัวที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีญาติพี่น้อง ร่วมกันหลายคน ลุงอวยชัย เล่าให้ฟังว่า....
"ชีวิตตนเองผ่าน อะไรมากมาย ตั้งแต่ยุค จคม.หรือโจรจีนคอมมิวนิสต์ ที่ต้องระหกระเห เร่ร่อน หนีเจ้าหน้าที่ของทางการ เข้าป่า แต่ยังไม่กล้าจับปืน ขึ้นต่อสู่กับฝ่ายรัฐไทย แต่พรรคพวกเพื่อนฝูงหลายคน ยอมจับอาวุธ ขึ้นต่อสู้ เรียกร้องอิสรภาพ บนผืนดินไทย จนลุงอวยชัย ต้องหลบหนีออกจากพื้นที่ ไปทำงานและใช้ชีวิตอยู่ต่างถิ่นหลายสิบปี"
จนเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ลุงอวยชัย ตัดสินใจลาออกจากงาน กลับมาซื้อที่ดิน ทำสวนยางพารา สวนผลไม้ กับภรรยา ที่บ้านเกิด ใกล้ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งขณะกลับมาสร้างชีวิตใหม่ ลุงก็บอกว่า ได้รับรู้ข่าว ของสถานการณ์ภาคใต้ เรื่องการปล้นปืน และใช้ชีวิตต่อมา ในสวนยางพารา ของตนเอง ทุกครั้งที่ได้เห็นข่าว สถานการณ์ มีคนบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่า เป็นผู้ใด ลุงกับภรรยารู้สึกหดหู่ใจ น้ำตาไหล ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับบ้านเรา
...ตั้งแต่สูญเสียภรรยา และลูกสาว ลุงอวยชัย ซูบผอมลงมา สภาพจิตใจย่ำแย่ ถึงกับเข้าสู่สภาวะอาการเครียด อย่างเห็นได้ชัด ได้นอนเพียงวันละ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะยังทนรับกับสภาพที่สูญเสียไม่ได้ และที่เจ็บปวดมากกว่านั้น คือ คำครหา จากสังคม ที่กล่าวหาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับภรรยาและลูกสาว มาจากความขัดแย้งส่วนตัว ทั้งเรื่อง ปล่อยเงินกู้ เรื่องที่ดิน และการค้ายาเสพติด....
ซึ่งลุงอวยชัยเอง เชื่อมั่นในครอบครัว และภรรยาของตนเอง ว่าไมไ่ด้กระทำในสิ่งที่สังคมต่างกล่าวหา ทั้งตนเองและภรรยา เป็นชาวบ้านธรรมดา ที่ทำสวนยางพารา ปลูกผัก ปลูกหญ้า หากินสะสมเงินไปวัน ๆ ใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างสมถะ ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางใจกับเพื่อนบ้าน เพราะที่ผ่านมา เพื่อนบ้านใกล้เคียง จะรู้จักตนเองและภรรยา เป็นอย่างดี ว่ามีอุปนิสัย อย่างไร
ไม่ต่างจาก นายน่าชม แก้วเทพ ผู้เป็นลูกเขย ที่สูญเสียภรรยา ซึ่งเป็นลูกสาวของลุงอวยชัยไปในเหตุการณ์เดียวกัน นายน่าชม แก้วเทพ กำลังสร้างบ้านหลังใหม่ในสวนยางพารา ห่างจากบ้านลุงอวยชัยไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างได้ประมาณ 70 เปอร์เซนต์ โดยก่อนหน้านั้น ได้อาศัยอยู่ในกระท่อมเก่า ๆ กับภรรยา และลูกสาวอีก 2 คนในวัยกำลังเรียน แต่สุดท้ายแล้ว ความฝันที่จะสร้างครอบครัวอยู่ร่วมกับภรรยา ก็ล่มสลาย เมื่อคนร้ายได้พรากเอาชีวิตเธอไปจากครอบครัวอย่างไม่มีวันหวนกลับ ทิ้งไว้เพียง ความทรงจำดี ๆ ในชีวิตคู่ที่ใช่ร่วมกันมาเพียง 20 กว่าปีเท่านั้น
ณ วันนี้ ลุงอวยชัย และนายน่าชม ผู้เป็นพ่อตา และลูกเขย ยังคงไปมาหาสู่ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งดำเนินชีวิตร่วมกัน เพื่อต่อสู้กับความเป็นจริงที่โหดร้าย ต่อสู้กับสภาพจิตใจที่อ่อนแรงลง และต่อสู้กับคำครหาจากสังคม รอเพียงความหวังจากทางเจ้าหน้าที่ ที่จะให้ความกระจ่างชัด เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับผุ้เสียชีวิตทั้ง 2 ที่จากไปแล้ว/.
ขอบคุณ เอกรักษ์ ศรีรุ่ง ผู้ถ่ายทอดความรู้สึกของ เหยื่อ ที่เกิดจาก สื่อ
เงาะป่า