Skip to main content

อับดุลเลาะ วันอะฮ์หมัด : ผู้แปล

"สามีได้บอกว่าหากเขากลับมาจากสิงค์โปร์ไม่จำเป็นต้องมารับก็ได้ "นางวินิงซิฮ์ (Winingsih) กล่าวด้วยดวงตาที่บอบช้ำ เธอยังคงรู้สึกเศร้าสลดกับโชคชะตาของผู้เป็นสามีนายมาร์วิน ซอและฮ์ (Marwin Sholeh) อายุ 49 ปี หนึ่งในจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินแอร์เอเชีย QZ8501 เที่ยวบินสุราบายา-สิงค์โปร์ที่ขาดการติดต่อตั้งเมื่อวันที่ 28/12/14

นางวินิงซิฮ์ได้ทราบข่าวร้ายเบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องบินที่สามีโดยสารได้ขาดการติดต่อจากศูนย์ควบคุมสูงข่ายของมาเลเซียเวลาประมาณเก้าโมงเช้า จากนั้นเธอก็ได้ติดตามข่าวสารจากทางสถานีโทรทัศน์ของเอกชน

นางวินิงซิฮ์ห วัย 38 ปีคนนี้ พอจะนึกได้ถึงลางร้ายไม่กี่นาทีก่อนที่สามีของเธอจะเดินทางไปยังสนามบิน เธอเล่าว่าสามีได้มีโอกาสนอนบนตักของตน และได้กล่าวกับเธอว่า "(หากเขากลับจากสิงค์โปร์)คงไม่ต้องมารอรับก็ได้" เพราะโดยปกติเขาไม่เคยพูดเช่นนั้น เธอเปิดเผย ณ บ้านพักของเธอ ที่หมู่บ้านปูจังลาบัน อำเภอปูจังลาบัน จังหวัดตูลูงาฆุงทางชวาตะวันออก เมื่อวันจันทร์ที่29/12/14

"ซึ่งคำร้องขอดังกล่าวเสมือนเป็นลางบอกเหตุให้กับครอบครัว ทว่าเรื่องดังกล่าวเพิ่งได้รู้สึกหลังจากทางบ้านได้รับแจ้งข่าวร้ายถึงการหายไปของเครื่องบินแอร์เอเชียที่สามีโดยสาร “แต่ก่อนหน้านี้ตนเองมิเคยรู้สึกใดๆ เลยต่อลางร้ายดังกล่าว”นางวินิงซิฮ์กล่าว

ช่วงเวลาที่พบกับนักข่าว เธอเพิ่งกลับจากศูนย์เตือนภัย (Crisis Center) ที่สนามบินยูวันด้าสุราบายาม ที่นั่นเธอได้รับการยืนยันว่าสามีของเธอคือหนึ่งในจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินแอร์เอเชีย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการค้นหา

สามีของเธอได้เปิดการอบรมเสริมสร้างทางเลือกให้กับคนงานในบางประเทศเพื่อเพิ่มฝีมือแรงงานในอินโดนีเซีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเก๊า การตรวจสอบการเข้าประเทศของแรงงาน นั่นคือสาเหตุที่สามีของเธอต้องเดินทางออกนอกประเทศอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงอุบัติเหตุครั้งเมื่อวานนี้ด้วย

การเดินทางไปยังสิงคโปร์ก็เช่นกันเพราะเกี่ยวเนื่องกับงานที่เขาทำคือการอบรมให้ความรู้ในการรักษาแบบทางเลือก”สถาบันซิงอวาลีโซโง” ที่เขาได้เปิดที่นั่นเมื่อปีที่แล้ว “ในกำหนดการของเขาคือจะบินไปยังอีกสองเมืองที่ฮ่องกง” ซัยฟุดดีน ลุงของสามีกล่าว

 

แปลจากลิ้งข่าว : http://sinarharapan.co/news/read/141230025/pesan-terakhir-dari-suami-b-b-b-b-div-div-div-div-#