ต้นปีที่แล้ว ร้านหนังสือบูคูมีโอกาสเข้าไปทำงานที่เรือนจำหญิงเชียงใหม่
และได้พบปะกับผู้ต้องขังที่ชอบอ่านหนังสือหลายคน
เมื่อไม่นานก่อนหน้านั้น มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งที่เรือนจำชายปัตตานีที่เป็นนักอ่านตัวยงเช่นกัน
หลังจากเห็นความต้องการในการอ่านหนังสือของพี่ๆเพื่อนๆที่อยู่ในเรือนจำ
ความคิดเรื่องการหาหนังสือเข้าเรือนจำจึงเกิดขึ้น
เมื่อทราบข่าวว่าทางโครงการแบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำได้เริ่มต้นโครงการบริจาคหนังสือให้ผู้ต้องขัง
และพบว่าหนังสือที่มีการบริจาคเข้าไปน้อยที่สุด คือหนังสือประเภทวรรณกรรม เช่น วรรณกรรมแปลคลาสสิค
วรรณกรรมแปลร่วมสมัย เรื่องสั้นและนวนิยายโดยนักเขียนไทย และหนังสือประเภทกวีนิพนธ์
ทางร้านจึงได้เข้าร่วมกับทางโครงการแบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำ
โดยทำการคัดเลือกหนังสือที่น่าอ่านไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อให้ผู้สนใจบริจาคหนังสือเข้าเรือนจำ
ได้เลือกซื้อหนังสือในราคาต้นทุนและทางร้านขออาสาเป็นผู้ส่งต่อหนังสือเข้าเรือนจำให้ทางโครงการ
เพื่อดำเนินการกระจายหนังสือไปยังเรือนจำต่างๆต่อไป
เพราะโลกของผู้ต้องขังในเรือนจำนั้นมีข้อบังคับต่างๆมากมายในแต่ละวัน
การได้อ่านหนังสือดีๆสักเล่ม นอกจากสามารถเยียวยาจิตใจ
สร้างความรื่นรมย์ให้กับชีวิตที่อยู่ภายใต้พันธนาการแล้ว
หนังสือบางเล่มยังให้ความรู้เกี่ยวกับโลก เกี่ยวกับชีวิต
และพาให้ผู้ต้องขังสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ ผ่านพลังแห่งจินตนาการและตัวอักษร
แม้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังกับคนที่อยู่ข้างนอกเรือนจำอาจต่างกัน
แต่ทว่า เราทุกคนต่างก็มีอารมณ์ความรู้สึกในแต่ละวันไม่ต่างกัน
บางวันเราสุข บางวันเราทุกข์ เศร้า เหงา มีความหวัง มีกำลังใจ สงสัยใคร่รู้ มีความรัก
และมีจินตนาการถึงโลกที่เราไม่อาจเดินทางไปได้ ด้วยข้อจำกัดในชีวิตของแต่ละคน
หนังสือบางเล่มอาจพาผู้ต้องขังโบยบินไปได้ไกลสุดขอบฟ้า แม้ว่าร่างกายจะอยู่ในที่ซึ่งไร้อิสรภาพก็ตาม
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดโครงการแบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำได้ที่ http://goo.gl/8k2Uy7
หมายเหตุ: ชื่อบทความ มาจากหนังสือ "ข้ามผ่านพันธนาการ" เคน เคซีย์ เขียน /โตมร ศุขปรีชา แปล
