เผยแพร่ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558
ศาลปกครองรับฟ้องคดี โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แก่ญาติผู้ตาย เป็นคดีที่สอง
ในกรณีชาวบ้านถูกวิสามัญฆาตกรรมที่บ้านสะแนะ นราธิวาส
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดี ได้รับใบแจ้งคำสั่งศาลปกครองสงขลา ว่า ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้ว เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 ในคดีหมายเลขดำที่ 155/2557 นางสาวซำซียะห์ หะยีมะตะโละ และบุตรผู้เยาว์ 3 คน กับมารดาของผู้ตาย ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 5 ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 2 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงนายสูเพียง สาและ ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556 ที่หมู่บ้านสะแนะ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยศาลยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้า ดังนั้นจึงถือว่า ในเหตุการณ์เดียวกันที่หมู่บ้านสะแนะ คดีนี้ศาลปกครองสงขลาได้รับฟ้องโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นญาติของทั้งนายสูเพียง สาและกับ นายอุสมาน เด็งสาแม (ศาลปกครองรับฟ้องและยกเว้นค่าธรรมเนียมไปเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 คดีหมายเลขดำที่ 156/2557) เพื่อดำเนินกระบวนการพิจารณาและพิพากษาคดีต่อไป
คดีฟ้องเรียกค่าเสียหายจากศาลปกครองนี้เกิดจากเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บ้านสะแนะ หมู่ที่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมพื้นที่รอบนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังพลเป็นหลายชุด เข้าตรวจค้น จับกุมบุคคลซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ ระหว่างปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 12/4 ในหมู่บ้านดังกล่าว นายสูเพียง สาและ กับ นายอุสมาน เด็งสาแม ได้สมัครใจออกมาแสดงตนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและควบคุมตัวโดยปราศจากอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งแต่ละคนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สายพลาสติกมัดมือทั้งสองข้างแล้วนำไปควบคุมรวมกับบุคคลอื่นที่สนามหญ้านอกบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ กระทั่งเหตุการณ์สงบลง ผู้ที่ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่เสียชีวิตบนบ้านที่เกิดเหตุ 2 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 คน(ต่อมาเสียชีวิต) แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสูเพียง สาและ กับ นายอุสมาน เด็งสาแม ซึ่งถูกพันธนาการและควบคุมตัวไว้แล้วดังกล่าวกลับเข้าไปในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุอีก โดยนำตัวนายสูเพียง สาและ เข้าไปภายในบ้านที่เกิดเหตุ และนำตัวนายอุสมานเข้าไปในสวนยางพาราหลังบ้าน อ้างว่าจะนำไปชี้ยืนยันตัวผู้ตายภายในบ้านที่เกิดเหตุ และชี้จุดตรวจค้นอาวุธ หลังจากนั้นนายสูเพียง สาและ กับ นายอุสมาน เด็งสาแม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตบนบ้านที่เกิดเหตุ และบริเวณสวนยางพารา ตามลำดับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าทั้งสองคนที่ถูกควบคุมตัวเข้าไปนั้นได้ไปนำอาวุธมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นำมาซึ่งความเคลือบแคลงสงสัยของชาวบ้านและญาติของผู้ตายเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุใดนายสูเพียง สาและ กับ นายอุสมาน เด็งสาแม จึงถูกยิงเสียชีวิต ทั้ง ๆ ที่ถูกพันธนาการและควบคุมตัวไว้แล้ว และเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุทำให้บุคคลถึงแก่ความตาย กรณีนายสูเพียง สาและ ถูกยิงเสียชีวิต ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2557 นางสาวซำซียะห์ หะยีมะตะโละ ภรรยา และบุตรผู้เยาว์ 3 คน กับมารดาของนายสูเพียง สาและ เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 5 ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายจากการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตของผู้ตาย โดยเรียกค่าเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 24,127,622.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินจำนวน 22,444,300 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้า เป็นคดีหมายเลขดำที่ 155/2557 ทั้งนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าได้ยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดด้วย (ร้อยละ 2 ของจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง) ศาลได้ไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายปรีดา นาคผิว ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม 02-6934939, 089-6222474