พ.อ.อัคร ทิพยโรจน์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (หน.ศปชส.พตท.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปผลความคืบหน้าคดีสำคัญซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 14 คดี ห้วงระยะเวลาตั้งแต่ 21 ก.ค.2548-12 เม.ย.2550 โดยมีจำนวนผู้ต้องหาทั้งสิ้น 214 คน แต่หลบหนีการจับกุมอยู่อีกจำนวนมาก
คดีแรกเป็นคดีปิดเมืองยะลา เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2548 คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงและยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนวางเพลิงอาคารทรัพย์สินของประชาชนในเมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 3 คน จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนและหลบหนีหมายจับอีก 1 คน คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่ออัยการ และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล โดยศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวเนื่องจากนายการียา โต๊ะเห็ง หนึ่งในผู้ต้องหาป่วยเป็นอัมพาต
คดีต่อมาคือคดีที่ชาวบ้านตันหยงลิมอ หมู่ที่ 7 จับตัว 2 นาวิกโยธินเป็นตัวประกันเมื่อคืนวันที่ 20 กันยายน 2548 และรุมทำร้ายจนเสียชีวิตในที่สุด ภายหลังเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 30 คน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 19 คนและหลบหนีหมายจับอีกจำนวน 11 คน โดยพนักงานสอบสวน ได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยนัดสืบพยานโจทย์ในห้วงวันที่ 17 มี.ค.-23 พ.ย. 2550
คดีที่สาม คือ คดีคนร้ายบุกสังหารพระและเด็กวัดพรหมประสิทธิ์จนเสียชีวิตรวม 3 ศพ เหตุเกิดที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2548 เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 23 คน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 20 คน (ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน) แ ละหลบหนี 3 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นัดสืบพยานโจทย์ในห้วงวันที่ 17 มี.ค.-30 พ.ค.2550
คดีที่สี่ คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง และเผายางรถยนต์ที่บริเวณ บ.ลูโบะลือซง ม.2 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2548 และวางระเบิดซ้ำจนเจ้าหน้าที่ 2 นายได้รับบาดเจ็บ เสาไฟฟ้าแรงสูงหักหนึ่งต้น และรถยนต์เสียหาย 1 คัน เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 19 คน โดยจับกุมได้ 9 คน และหลบหนีหมายจับอีก 10 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นัดสืบพยานโจทย์ในห้วงวันที่ 6 มี.ค.-30 พ.ค. 2550
คดีที่ห้า เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกยึดคลังอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นจำนวนมากในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ15 ธ.ค.2549 เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 23 คน โดยจับกุมได้ 11 คน และหลบหนีหมายจับอีก 12 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นัดสืบพยานโจทย์ในห้วงวันที่ 24 ก.ค.-27 ธ.ค. 2550
คดีที่ 6 คนร้ายลอบยิงและฆ่าตัดคอทหารพลร่มเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บ 2 นายในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ 2 ม.ค.49 เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 7 คน โดยจับกุมได้ 1 คน และหลบหนีหมายจับอีก 6 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นัดสืบพยานโจทย์ในห้วงวันที่ 21-27 ธ.ค. 2550
คดีที่เจ็ด คนร้ายจับและทำร้ายครูจูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ม.4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2549 ซึ่งครูจูหลิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา คัน เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 58 คน โดยจับกุมได้ 27 คน และหลบหนีหมายจับอีก 31 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นัดสืบพยานโจทย์ในวันที่ 4 ก.ค.2550
คดีที่แปด คนร้ายลอบวางระเบิดและยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน และอาสาสมัครจนเสียชีวิตจำนวน 5 นาย เหตุเกิดในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อ 27 มิ.ย.2549 สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาจำนวน 10 คนโดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คนแบละหลบหนีหมายจับอีก 9 คน อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด นัดสืบพยานโจทย์ในห้วงวันที่ 15 ก.ค.-31 ก.ค. 2551
คดีที่เก้า คนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารจำนวน 23 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 คนบาดเจ็บ 39 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2549 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดยะลา และได้แบ่งคดีตามแต่ละอำเภอดังต่อไปนี้
สภ.อ.เมืองยะลา จังหวัดยะลา สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 10 คน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คนและหลบหนีอีก 5 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ศาลนัดพร้อมกันในวันที่ 14 พ.ค.2550
สภ.อ.เบตง จังหวัดยะลา สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 15 คน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คนและหลบหนีหมายจับอีก 11 คน ซึ่งหนึ่งใน 11 คนที่หลบหนี คือนายถวัลย์ศักดิ์ แปแนะ ผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดในกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันปีใหม่ที่ผ่านมา
อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ศาลอนุญาตให้สืบพยานล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว
สภ.อ.ยะหา จังหวัดยะลา สามารถจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหได้จำนวน 1 คน อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ศาลนัดสืบพยานโจทย์ในวันที่ 10 มี.ค. 2551
คดีที่สิบ คนร้ายลอบวางระเบิดโชว์รูมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวม 8 แห่ง เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2549 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้จำนวน 1 คนรับสารภาพว่าเป็นคนนำระเบิดไปวางในร้าน น่ำฮั่วจั่น สถานที่ขายรถจักรยานยนต์ อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ
คดีที่สิบเอ็ดคนร้ายลอบยิงนางชุติมา รัตนสำเนียง และนางสาวรุ่งนภา คงสุวรรณ ครูโรงเรียนชุมชน บ้านตาแกะ นางชุติมาเสียชีวิต ส่วนนางสาวรุ่งนภาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2549 ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาได้จำนวน 1 คน ซึ่งมีประจักษ์พยานยืนยันว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย อัยการจับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ
คดีที่สิบสอง คนร้ายใช้ของมีคมฆ่าตัดคอนายจวน แก้วทองประคำ ซึ่งเป็นบิดาของผู้สื่อข่าวทีไอทีวี เหตุเกิดพื้นที่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 8 ก.พ. 2550 มีการออกหมายจับตาม พ.ร.ก.ผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 หมายจับ (จับ 2/หลบหนี 1) และควบคุมผู้ต้องสงสัยตามกฏอัยการศึกจำนวน 1 คน รวมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 3 คน โดยผู้ต้องสงสัยให้ถ้อยคำสารภาพ และนำเจ้าหน้าที่ชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ
คดีที่สิบสาม เหตุก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คนบาดเจ็บ 57 คน เมื่อ 18 ก.พ. 2550 สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้จำนวน 8 คนในพื้นที่ อ.เบตง, อ.เมืองนราธิวาส และ อ.สุไหงโก-ลก จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คนและหลบหนีหมายจับอีก 4 คนโดยผู้ต้องหาของ อ.เบตงให้การรับสารภาพ คดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน
และคดีล่าสุดคือ กรณีคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ปะนาเระเสียชีวิต 3 นาย เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ได้ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นจนทัน และเกิดการปะทะกัน เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 2 คนและถูกจับกุม 2 คน พร้อมยึดอาวุธปืนของคนร้าย รวมทั้งที่ปล้นเอาไปจาก ตำรวจที่เสียชีวิตได้คืนจำนวน 5 กระบอก เหตุเกิดพื้นที่ สภ.อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 3 เม.ย.2550
สำหรับคนร้ายที่เสียชีวิต 2 คน คือนายมะอามรี สการี อายุ 21 ปี ชาว อ.รามัน จ.ยะลา และนายมูฮำหมัดสุบรี เจ๊ะเต๊ะ อายุ 26 ปี ชาว อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ส่วนคนร้ายที่ถูกจับกุม 2 คนคือนายฮาสัง ซาเมาะ อายุ 21 ปี ชาว อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และนายมัสลัน ตาเฮ อายุ 27 ปี ชาว อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์วิวัฒน์สันติ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
จากการซักถามเบื้องต้น นายฮาสัง ซาเมาะ ยอมรับว่าเป็นกลุ่มขบวนการก่อการร้าย โดยได้ร่วมกับคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 2 คนและคนร้ายที่หลบหนี ซึ่งความคืบหน้าทางคดีวันนี้ ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 6 ปาก
ในจำนวน 14 คดีนี้เป็นเพียงคดีสำคัญเท่านั้น ซึ่งยังมีคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นอีกมาก เช่นเหตุร้ายรายวัน ส่วนใหญ่ยังจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้.