คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี 4 ศพทุ่งยางแดง สรุปผู้เสียชีวิตไม่ใช่แนวร่วมขบวนการก่อเหตุรุนแรง ไม่มีความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่พบ แต่ไม่ชี้ปมวิสามัญฯ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แม่ทัพภาค 4 ขอโทษ เผย จนท.ทำงานภายใต้สภาวะวิกฤต อาจมีผลต่อการตัดสินใจ ด้าน ตร.เตรียมเรียก จนท. 7 นายให้ปากคำ ผบก.ปัตตานี ย้ำทำหน้าที่ตรงไปตรงมา
7 เม.ย. 2558 ทีโรงแรมปาร์ควิวปัตตานี นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ในฐานะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีบ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้ร่วมกันแถลงผลสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ถูกควบคุมตัว 22 ราย เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2558 ซึ่งถูกประชาชนในพื้นที่เรียกร้องความเป็นธรรมว่าเจ้าหน้าที่รัฐอาจปฏิบัติการเกินกว่าเหตุ และผู้ตายไม่ใช่คนร้าย
การแถลงผลสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ให้สรุปข้อเท็จจริงขั้นต้นให้ได้ภายใน 7 วัน สำหรับผลสอบข้อเท็จจริง สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ คณะกรรมการฯ ได้ตั้งประเด็นสอบ 3 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นแรก ผู้ตายทั้ง 4 คนเป็นผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญา หรือเป็นกลุ่มก่อเหตุรุนแรง หรือแนวร่วมหรือไม่
คณะกรรมการฯมีความเห็นว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนไม่ใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรง และไม่ใช่แนวร่วมกลุ่มก่อเหตุรุนแรง
ประเด็นที่ 2 การริเริ่มปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ถูกต้องและสมเหตุสมผลหรือไม่
คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า จุดเริ่มต้นของการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชอบด้วยเหตุผลในการปฏิบัติการ
ประเด็นที่ 3 การวิสามัญฆาตกรรมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และอาวุธปืนรวมทั้งวัตถุระเบิดของกลางเป็นของผู้ตายหรือไม่
คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า เหตุการณ์ที่เป็นเหตุให้มีการเสียชีวิตทั้ง 4 รายนั้น เกิดขึ้นห่างจากจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติการประมาณ 300 เมตร ในบริเวณป่าสวนยางพารา มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์ ประกอบกับ คณะกรรมการฯ มีเวลาจำกัดในการแสวงหาข้อเท็จจริงเพียง 7 วัน จึงไม่สามารถหาประจักษ์พยานอื่นใดมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการฯ
ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุเขม่าดินปืนที่มือผู้ตาย และที่อาวุธปืนของกลาง ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าความเชื่อมโยงระหว่างผู้ตายกับอาวุธปืนอย่างชัดเจน และยังมีความเคลือบแคลงในบางประเด็น
ในชั้นนี้คณะกรรมการฯ ไม่สามารถวินิจฉัยในประเด็นการต่อสู้กับเจ้าพนักงานได้ จึงให้เป็นหน้าที่ของการแสวงหาพยานหลักฐานในชั้นกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับข้อเสนอของคณะกรรมการฯ มี 2 ข้อ คือ 1.เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนยุติธรรม และ 2.ต้องจ่ายเยียวยาตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต.
ภาพโดย: Piyasak Ausap
แม่ทัพภาค 4 ขอโทษ เผย จนท.ทำงานภายใต้สภาวะวิกฤต อาจมีผลต่อการตัดสินใจ
ด้านมติชนออนไลน์ รายงานว่า พลโท ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังแถลงข่าวว่า วันนี้พวกเราทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันก้าวข้ามวิกฤตของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ บ.โต๊ะชูด ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใต้กฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป ตนขอน้อมรับมติของคณะกรรมการที่แถลงต่อสื่อในวันนี้และยินดีนำไปปฏิบัติ
โดยทิศทางแรกต้องยอมรับที่มาของเหตุเกิดมาจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ทำการติดตาม ทิศทางที่สองเรื่องการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ ต้องให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ที่ต้องให้เวลาในการพิสูจน์ ต้องเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ภายใต้สภาวะวิกฤตที่อาจมีความหวาดกลัวบ้างที่มีผลต่อการตัดสินใจ
ส่วนแนวทางในการดำเนินการของ กอ.รมน.ภาค4 ต่อผู้มีความเห็นต่างในวันนี้ขอยืนยันว่าเราใช้แนวทางสันติอย่างเดียว เราให้เจ้าหน้าที่ใช้ความอดทนให้มากที่สุดในการควบคุมตัวบุคคล ตามขั้นตอนมีผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนาเข้าร่วม ที่เคยเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว 4 ครั้งก่อนหน้า
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ขออภัยทุกฝ่ายทั้งคณะกรรมการ ญาติผู้ที่สูญเสียและประชาชนต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่เราไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในแนวทางได้ ขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการก้าวข้ามวิกฤต ยึดหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนกันต่อไป
พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวถึงแนวทางการสอบสวนว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดครั้งนี้ก็มีการเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ภายในอาทิตย์นี้ก็จะดำเนินการเรียบร้อยขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะผู้บังคับบัญชาสั่งให้จะดำเนินการตรงไปตรงมา ซึ่งคนละเรื่องกับการเยียวยา ไม่ใช่เยียวยาแล้วการการดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องจะไม่ดำเนินการ เพราะการกระทำผิดก็ว่าด้วยตามกฎหมาย ใครผิดใครถูกก็ว่าด้วยที่ศาล ทางพนักงานสอบสวนจะนำผลการตรวจข้อขอเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนี้มาเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการสอบสวนในสองสามประเด็น
ขณะที่นางซูไรยา สาแมง แม่ 1 ใน 4 ผู้เสียชีวิตกล่าวหลังเดินทางมารับทราบผลการแถลงของคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า พอใจในคำขอโทษและพอใจคำตัดสินของคณะผู้ตรวจสอบและขอบคุณคณะตรวจสอบที่เหน็ดเหนื่อยในการรวบรวมความกล้าหาญ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อคดีของลูกชายที่เสียชีวิต
เตรียมเรียก จนท. 7 นายให้ปากคำ ผบก.ปัตตานี ย้ำทำหน้าที่ตรงไปตรงมา
ก่อนหน้านี้ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วันที่ 6 เม.ย.2558 เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมโรงพักทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงค์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้เรียกพนักงานสืบสวน และสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเหตุยิงปะทะบ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 22 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.45 น.ของวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหารได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 9 คน ออกมาหมดแล้วเป็นอิสระ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปล่อยมาแล้วบางส่วน จำนวน 13 คน หลังจากไม่พบมีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่แต่อย่างใด
การเรียกประชุมในครั้งนี้เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการสืบสวน และสอบสวนอีกครั้ง หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกับพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เรียกผู้เสียหาย และญาติผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำรวม 39 ปาก โดยมีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้รู้สึกกดดันแต่อย่างใด โดยเฉพาะทางผู้เสียหายให้การมีประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีสำคัญร่วมกับกองกำลังทหารพราน 41 ผู้ปฏิบัติการในวันเกิดเหตุปะทะบ้านโต๊ะชูด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนนั้น ทางผู้บังคับบัญชาได้ส่งรายชื่อมาก่อนหน้านี้ จำนวน 7 นาย ที่คาดว่าเกี่ยวข้องต่อการใช้อาวุธปืนสงครามที่ทำเกิดการเสียชีวิตในวันดังกล่าว ให้แก่พนักงานสอบสวน พร้อมจะมอบตัวสู้คดี และรับข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน และพร้อมให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนภายในกลางเดือนเมษายนนี้ หลังจากที่เคยขอเลื่อนการเข้ามอบตัว และให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนมาแล้วครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.กฤษกร กล่าวว่า การประชุมวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำฝ่ายผู้เสียหายมาหมดแล้วว่า ยังพอมีพยานที่จะสอบเพิ่มเติมบ้างหรือไม่ ในส่วนฝ่ายถูกกล่าวหาก็ได้แจ้งทางพนักงานสอบสวนว่า จะมอบตัวให้ปากคำภายในกลางเดือนนี้
ในส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ หลังที่ทางพนักงานสอบสวนได้กล่าวแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขึ้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณา คงเป็นเรื่องสิทธิของการดำเนินคดีเหมือนการดำเนินทั่วไป แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชน และสาธารณะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ รวมทั้งเรายังมีคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีตั้งขึ้นมา จึงจำเป็นที่ทางพนักงานสอบสวนต้องฟังข้อสรุปแล้วนำผลสรุปมาประกอบในสำนวนคดีในครั้งนี้ด้วย
ในส่วนของอาวุธปืนทั้ง 4 กระบอก รวมทั้งลูกระเบิดชนิดขว้างที่เจออยู่ในที่เกิดเหตุนั้นว่าจะเป็นของผู้ตายหรือไม่นั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังรอผลการพิสูจน์เขม่าดินปืน ดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝงว่าตรงกับผู้ใดอย่างไร ตอนนี้กำลังรอผลทางนิธิวิทยาศาสตร์ และผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ขอยืนยันว่า ทางพนักงานสอบสวนไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด เพราะทางผู้บังคับบัญชาได้ให้แนวทางการทำงานมาโดยตลอดให้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเสมอภาคในความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่าย
