ตูแวดานียา ตูแวแมแง
และกองบรรณาธิการปาตานี ฟอรั่ม
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล เฟสติวัลสมุย คืนวันที่10เมษายน58 มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 6 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบของ จนท.ที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้นพบรถยนต์ต้องสงสัยว่าเป็นรถต้นเหตุระเบิดเป็นรถกระบะสองตอนยี่ห้อมาสด้า กย.5618 ชลบุรี หลังเกิดเหตุ จนท.ได้ทำการตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม และจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่ารถคันดังกล่าวทะเบียน กข. 4892 ยะลา อบต.ละแอ ม.1 ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และอบต.ละแอ ได้แจ้งหายไว้ ซึ่งสาเหตุการหายของรถกระบะคันนี้นั้นเป็นการโจรกรรมโดยกลุ่มคนร้ายแต่งกายคล้ายทหารพรานกระทำการยึดรถจากพนักงานขับรถของอบต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่31มีนาคม 58 ที่ผ่านมา คืนเดียวกันก็เกิดเหตุไฟไหม้อาคารอีก2จุดคือสหกรณ์โคออป จ.สุราษฎร์ธานี และห้างแบรนด์ท้องถิ่นใน อ.โคกกลอย จ.พังงา ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นการวางเพลิงและน่าจะเป็นการก่อเหตุของชุดเดียวกัน
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ชวนให้ต้องสนใจเป็นพิเศษนั้นก็คือเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ที่ห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเพราะตัวรถที่ถูกประกอบทำเป็นคาร์บอมในครั้งนี้เป็นรถกระบะที่มาจากเหตุการณ์ปล้นเมื่อ31มีาคม58 ซึ่งทั้งรัฐและสังคมสาธารณะพื้นที่ต่างก็ให้น้ำหนักกับขบวนการปลดปล่อยปาตานีเป็นผู้ก่อเหตุปล้นในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดนั้นจะต้องเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อยกับขบวนการปลดปล่อยปาตานี
ประกอบกับข้อมูลจากสำนักข่าวอิศราระบุว่า แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความเห็นว่า การประกอบระเบิดของคนร้าย จากวัตถุพยานที่พบมีลักษณะเหมือนกับระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมทั้งคาร์บอมบ์ที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน ธ.ค.2556 ด้วย ซึ่งมีการตั้งเวลาระเบิดวันเดียวกับที่เกิดระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์และคาร์บอมบ์รวม 3 จุด ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา คือวันที่ 22 ธ.ค.2556 สำหรับคาร์บอมบ์ที่พบที่ จ.ภูเก็ต รถกระบะที่ใช้ก็โจรกรรมมาจาก อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ติดตั้งวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊สหุงต้ม ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จำนวน 2 ถังต่อพ่วงกัน ถังแก๊สซุกซ่อนไว้ใต้ที่นั่งในแคปหลังเบาะคนขับ โดยรูปแบบการประกอบระเบิด ถังแก๊สที่ใช้ และลักษณะการวางถังแก๊ส คล้ายคลึงกับคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุยเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายที่วางระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือมีความเกี่ยวข้องกันกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา รวมทั้ง จ.ภูเก็ต ซึ่งระเบิดไม่ทำงาน ส่วนจะเป็นกลุ่มใดนั้น ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก แต่ก็ไม่สามารถฟันธงสรุปได้ในเวลาอันรวดเร็วเพราะสถานที่ก่อเหตุไม่ใช่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และช่วงเวลาวันที่10เมษายนก็ไม่ใช่วันสำคัญที่มีนัยยะเกี่ยวโยงโดยตรงกับขบวนการปลดปล่อยปาตานี
ในขณะเดียวกันวันที่10 เมษายนคือวันครบรอบ 5 ปีเหตุการณ์ผู้ชุมนุมเสื้อแดงถูกสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรงจนเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิต 98 รายในปี 2553 ซึ่งขณะนั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและเป็นประธานศอฉ. จากนัยยะสำคัญของช่วงเวลาดังกล่าวที่คาบเกี่ยวกับสัญลักษณ์ทางการเมืองของพลพรรคเสื้อแดงและประกอบกับสถานที่เกิดเหตุครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นในเขตอิทธิพลของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงทำให้น้ำหนักการฟันธงว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้คือขบวนการปลดปล่อยปาตานีอ่อนลง แต่กระนั้นก็อาจจะเป็นการลับลวงพรางของขบวนการปลดปล่อยปาตานีก็เป็นได้
ทั้งนี้ตัวแปรสำคัญของการไขปริศนาว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ก็คือ
1.ใครที่ปล้นรถกระบะคันนี้ที่ยะหา?
2.ทำไมต้องเลือกช่วงเวลาก่อเหตุตรงกับ10เมษาด้วย 10เมษามีนัยสำคัญอย่างไร?
3.สถานที่ก่อเหตุมีนัยยะสำคัญอย่างไร?
3 ตัวแปรข้างต้นพอจะวิเคราะห์ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดครั้งนี้ด้วย 3 สมมุติฐานดังนี้
สมมุติฐานที่ 1 ขบวนการปลดปล่อยปาตานีเป็นผู้ก่อเหตุ
ปัจจัยที่เป็นแรงขับการก่อเหตุครั้งนี้คือเพื่อตอบโต้รัฐไทยหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ไปบีบมาเลเซียให้บังคับสมาชิกสภาองค์กรนำระดับสูงที่อยู่ในมาเลเซียขึ้นโต๊ะการเจรจาสันติสุข ส่วนการเลือกสถานที่ก่อเหตุที่ไม่ใช่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้แต่เป็นพื้นที่ที่มีผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองเพราะเกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับรัฐอย่างมหาศาล
อีกทั้งเกาะสมุยเองก็เป็นที่รับรู้ของสาธารณะทั่วไปว่าเป็นเขตอิทธิพลของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นศัตรูอันดับต้นๆของฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเสื้อแดงหรือฝ่ายประชาธิปไตย และเลือกช่วงเวลาวันที่ 10 เมษายนซึ่งมีนัยะสำคัญของสัญลักษณ์การสูญเสียชีวิตของฝ่ายตรงข้ามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นอาจเป็นไปได้ว่าทางขบวนการปลดปล่อยปาตานีต้องการให้เกิดการ "ลับลวงพราง" และต้องการสร้างแนวร่วมกับฝ่่ายประชาธิปไตยที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เป็นได้
สมมติฐานที่ 2 ขบวนการฝ่ายประชาธิไตยไทยเป็นผู้ก่อเหตุ
ปัจจัยที่เป็นแรงขับของการก่อเหตุคือเพื่อตอบโต้มาตรา44 และเพื่อสร้างนักปฏิวัติอาชีพจากสถานการณ์ปฏิวัติจริง แต่ที่น่าสนใจคือรถกระบะที่ถูกปล้นที่อ.ยะหานั้น สังคมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และฝ่ายความมั่นคงส่วนลึกเองเชื่อว่าเป็นฝีมือของขบวนการปลดปล่อยปาตานี แสดงว่าทางฝ่ายประชาธิปไตยไทยน่าจะมีการเชื่อมในเชิงลึกกับขบวนการปลดปล่อยปาตานีหรือไม่ เพื่อเอารถกระบะคันดังกล่าวนั้นมาก่อเหตุด้วยคนของฝ่ายตนเสียเองหรือฝ่ายประชาธิปไตยไทยอาจจะขอความช่วยเหลือจากขบวนการปลดปล่อยปาตานีให้มาก่อเหตุในพื้นที่ของตนหรือไม่
สมมติฐานที่ 3 ทหารทำเอง
ปัจจัยที่เป็นแรงขับการก่อเหตุคือเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ทหารมีความชอบธรรมอยู่ในอำนาจต่อไปหรือไม่ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะเป็นการได้ประโยชน์ที่คุ้มมากกว่าเสียหรือไม่ เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เองก็สนิทกับทหารระดับสูงของคสช. ถ้าในมุมของคนเสื้อแดงก็สรุปไปเลยว่าเป็นพวกเดียวกัน อีกทั้งความล้มเหลวในมิติของการป้องกันภัยการคุกคามด้วยลักษณะการก่อวินาศกรรมในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเกรดเอของประเทศนั้นส่งผลให้ประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไม่ไว้วางใจรัฐบาลทหารไปอีกนานแน่
ทว่าจะเป็นข้อสมมุติฐานใดก็ตามที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดแบบเหนือชั้นในครั้งนี้ ผลลัพธ์ของมันก็ได้กระทบแบบบั่นทอนกับกระบวนการจัดโต๊ะการพูดคุยเจรจาสันติสุขสันติภาพโดยรัฐบาลคสช.และบั่นทอนกระบวนการจัดวางมาตรการของรัฐบาลคสช.ในการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วราชอาณาจักรไทยอย่างแน่นอน
หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.pataniforum.com/single.php?id=503