ทีมพูดคุยสันติภาพฝ่ายไทยยืนยันแถลงการณ์ล่าสุดบีอาร์เอ็นไม่กระเทือนการพูดคุยกับมารา ปาตานี

 

 

ทีมพูดคุยสันติภาพฝ่ายไทยยืนยันแถลงการณ์ล่าสุดบีอาร์เอ็นไม่กระเทือนการพูดคุยกับมารา ปาตานี ชี้ตีความได้สองอย่าง แตกแยกกันภายใน หรือไม่ก็เล่นกันคนละบท

 

หลังจากที่มีการเผยแพร่แถลงการณ์ลงวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาในนามของกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยมีเนื้อหากล่าวถึงปัญหาการพูดคุยตามกระบวนการสันติภาพกับรัฐไทย บีบีซีไทยได้สอบถามความเห็นของพล.ท.นักรบ บุญบัวทอง เลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขของรัฐบาลไทย ซึ่งพล.ท.นักรบระบุว่า ยังไม่ชัดเจนนักว่าเนื้อหาในแถลงการณ์ต้องการบ่งบอกอะไร แต่สำหรับกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขหรือสันติภาพนั้น เชื่อว่าไม่กระทบอย่างแน่นอนเพราะว่าทีมมารา ปาตานี เองก็ยืนยันมาเช่นนั้น

 

เมื่อถามว่า แถลงการณ์ที่ออกมาเช่นนี้จะเป็นสัญญาณของความแตกแยกในกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ พล.ท.นักรบชี้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะหมายถึงการที่สองฝ่ายซึ่งหมายถึงบีอาร์เอ็นส่วนที่ออกแถลงการณ์กับส่วนที่มีส่วนร่วมในการพูดคุยภายใต้มารา ปาตานี เลือกที่จะแสดงบทบาทกันคนละด้านก็เป็นได้ด้วย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตนเชื่อว่าการพูดคุยเดินหน้าต่อโดยไม่กระทบ เพราะในด้านหนึ่งพบว่า คนในพื้นที่เวลานี้ตื่นตัวต่อเรื่องสันติภาพมากแล้ว

 

“คนในพื้นที่เริ่มตื่นตัว การสนับสนุนในเรื่องการพูดคุยและสันติภาพจะทำให้การใช้กำลังจะหมดความหมายลงไปเรื่อยๆ”

 

พล.ท.นักรบเห็นว่า แม้แต่กลุ่มที่ออกแถลงการณ์เองก็ดูเหมือนจะลดระดับของความแรงลง และชี้ว่า กลุ่มที่มีความเห็นรุนแรงจริงๆจะไม่มีลักษณะการเขียนหรือแสดงออกดังเช่นที่เห็น รวมทั้งในเวลาออกแถลงการณ์ก็จะมีอาการที่กร้าวมากกว่า เมื่อถามเรื่องข้อเรียกร้องห้าข้อของบีอาร์เอ็นที่แถลงการณ์อ้างถึง อันเป็นเรื่องที่บีอาร์เอ็นเคยนำเสนอในช่วงที่มีการพูดคุยสันติภาพภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขระบุว่า เรื่องนี้ทางฝ่ายตัวแทนบีอาร์เอ็นที่อยู่ในมารา ปาตานีไม่ได้พูดถึงแต่อย่างใด และอันที่จริงแล้วพวกเขาบอกว่าให้วางไว้ก่อน และในเวลานี้ก็ถือว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะมาพูดคุยเรื่องเหล่านี้เพราะยังไม่ได้แม้แต่หารือเรื่องปัญหาในพื้นที่จากมุมมองของกลุ่มมารา

 

ในแถลงการณ์ดังกล่าวที่มีความยาว 4 หน้าได้ระบุถึงที่มาของการต่อสู้ของกลุ่ม แต่ใจความสำคัญกล่าวว่าในช่วง 55 ปีของการต่อสู้กลุ่มได้บทเรียนว่า การจะให้ได้มาซึ่งความเป็นอิสระจากรัฐไทยไม่ใช่จะสามารถทำได้ผ่านการร้องขอ แต่ต้องต่อสู้ต่อเนื่องยาวนาน ใช้ความเสียสละและความตั้งใจอันแน่วแน่ แต่แถลงการณ์ก็กล่าวว่า ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มหันหลังให้กับการสร้างสันติภาพผ่านการพูดคุยและเจรจา แต่กระบวนการเช่นนี้ต้องทำอย่างมีศักดิ์ศรีและจริงใจไม่ใช่กระบวนการที่หลอกลวงและมีเจตนาบ่อนทำลายความก้าวหน้าของประชาชน แถลงการณ์ระบุว่า ข้อเรียกร้องห้าข้อของบีอาร์เอ็นที่เคยยื่นเสนอต่อรัฐบาลไทยนั้นฝ่ายไทยกลับไม่ได้ตอบสนอง แถลงการณ์ตั้งคำถามว่า การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นความจริงใจหรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า การจะมีกระบวนการพูดคุยที่จริงใจต้องทำตามมาตรฐานสากลกล่าวคือต้องมีผู้ไกล่เกลี่ยและผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศ “เพราะปัญหาของปาตานีเป็นเรื่องที่มาจากการเข้าครอบครองชาติหนึ่งโดยอีกชาติหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องรับรองการดำรงอยู่ของชาติปาตานีมาเลย์” แถลงการณ์ลงนามว่ามาจากแผนกข่าวสารข้อมูล ในกระดาษที่มีหัวและเครื่องหมายกลุ่มบีอาร์เอ็น

 

ในส่วนของฝ่ายไทย พล.ท.นักรบยืนยันว่า การพูดคุยกำลังไปได้ดี กลางเดือนพ.ย.นี้จะมีการนัดพูดคุยรอบถัดไป โดยประเด็นใหญ่จะยังเป็นเรื่องเงื่อนไขในการพูดคุยที่ต่างฝ่ายต่างเสนอมาฝ่ายละสามข้อ ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง จะมีทีมงานพูดคุยเพื่อสรุปการทำเรื่องหลักเกณฑ์ในการพูดคุยหรือ Terms of reference แยกต่างหากไปอีกชุดหนึ่ง

 

อีกด้านหนึ่ง พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในหรือ กอ.รมน. รองโฆษกคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขก็แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยว่า การที่มีแถลงการณ์ ทำให้มีการนำไปผลิตซ้ำและมีบางประเด็นคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงสร้างความสับสน จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลที่ออกแถลงการณ์งดการให้ข่าวสารด้านเดียวตามลำพังและหันมาใช้เวทีเจรจาอย่างจริงใจ พล.ต.บรรพตกล่าวว่า กระบวนการพูดคุยในเวลานี้กำลังอยู่ในห้วงเวลาของการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ขณะที่มีการนำข้อหารือไปสู่การพูดคุยถกเถียงโดยหลายฝ่าย และจะมีการนำเสนอความเห็นของกลุ่มต่างๆแม้ว่าอาจจะยังไม่พร้อมที่จะนำหลายเรื่องเสนอสู่สาธารณะ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ประเด็นที่ยังไม่ได้เห็นชอบร่วมกันถูกนำมาวิเคราะห์ในวงกว้างจนเกินเลยก็ตาม