เริ่มแล้วไต่สวนการตายกรณีทุ่งยางแดง เจ้าหน้าที่ให้การถูกยิงก่อนจึงยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเอง ทนายครอบครัวผู้ตายตั้งคำถามในศาลและพบว่า เจ้าหน้าที่ให้ปากคำพนักงานสอบสวนด้วยเอกสารหลังเหตุการณ์ผ่านไป 3 เดือน
วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลปัตตานีได้เริ่มไต่สวนการตายคดีที่เรียกกันว่าสี่ศพทุ่งยางแดง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มี.ค.2558 จากการปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านโต๊ะชูด อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีบุคคล 4 คนถูกยิงเสียชีวิต คือนายซัดดัม วานุ นายคอลิด สาเม็ง นายมะดารี แมเราะ และนายสุไฮมี เซ็นและ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจากครอบครัวผู้ตายได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยบอกว่า ผู้ตายไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง มิได้เป็นแนวร่วมหรือมีอาวุธดังที่มีการรายงานกันในสื่อมวลชน และผลของการตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบเมื่อเดือน เม.ย.ก็สรุปเช่นนั้น ในศาลบรรดาสมาชิกครอบครัวผู้ตายต่างพากันไปติดตามการไต่สวนการตายครบทุกครอบครัวและได้ตั้งทนายความให้เป็นตัวแทนเข้าร่วมในการซักถามด้วย
ผู้ให้ปากคำในชั้นศาลในวันแรกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์การตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับเจ้าหน้าที่ทหารและอาสาสมัครทหารพรานจากหน่วยฉก.41 ทุ่งยางแดงรวมทั้งหมด 3 คน การให้การเน้นเนื้อหารายละเอียดการเข้าปฏิบัติการเพื่อให้เห็นภาพอันเป็นที่มาของการเสียชีวิต พวกเขาให้การสรุปได้ว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการสนธิกำลังตำรวจและทหารรวมแล้วประมาณ 40 นายเพื่อเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่เป็นบ้านที่กำลังก่อสร้างที่อยู่ไม่ห่างจากถนนสายย่อยในหมู่บ้าน ด้านหลังบ้านเป้าหมายเป็นป่าสวนยางที่ส่วนหนึ่งถูกตัดแล้วเหลือเพียงตอไม้และที่โล่ง ถัดไปเป็นลำธารที่ค่อนข้างแห้งซึ่งคั่นกลางระหว่างพื้นที่ป่าที่ถูกตัดแล้วกับป่าสวนยางที่ยังไม่ได้ตัด
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ได้รับคำสั่งให้แยกกันเข้าโอบล้อมจากบริเวณหลังบ้านโดยเข้าคนละปีกคือซ้ายและขวา ตีวงโอบจากสองด้านเข้าสู่ป่าสวนยางที่ตัดแล้วเพื่อจะจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่วิ่งหลบหนีตัดเข้าสู่ลำธารข้ามไปยังป่าส่วนที่ยังไม่ได้ตัดอันเป็นพื้นที่ยกสูง ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า ผู้คนที่หลบหนีได้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ในป่าสวนยางหลังลำธารและจบชีวิตที่นั่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. - 17.30 น. ของวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เปิดพื้นที่ให้มีการเข้าไปชันสูตรพลิกศพในเวลาประมาณ 22.00 - 23.00 น. ในช่วงเวลาของปฏิบัติการมีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลักในหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนให้การกับศาลเหมือนกันว่า ขณะที่ขับรถตามกันเข้าไป 6 คันเพื่อเข้าสู่พื้นที่ปิดล้อมตรวจค้น ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แต่ไม่ชัดเจนว่ามาจากจุดไหน หลังจากเข้าพื้นที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก เมื่อแยกเป็นสองกลุ่ม พวกเขาได้ติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยไปจนถึงริมลำธาร เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การว่า ขณะจะข้ามลำธาร ตนได้ถูกยิงจากชายใส่เสื้อสีส้มฝั่งตรงข้ามแต่ว่าไม่โดน ตนจึงได้ยิงตอบโต้ไป อีกไม่นานฝ่ายตรงข้ามก็เงียบ เจ้าหน้าที่อีกสองรายซึ่งเป็นทหารและอยู่ในกลุ่มที่โอบล้อมอีกด้านให้การเหมือนกันว่า ได้รับรายงานจากวิทยุสื่อสารว่ามีคนร้ายกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งหนี และได้เห็นพวกเขาวิ่งอยู่ในพื้นที่ป่าที่ตัดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งยอมรับว่า ผู้ตายที่กำลังวิ่งหนีในขณะนั้นไม่มีอาวุธ แต่ในการให้การถัดมา เจ้าหน้าที่ระบุว่าพวกเขาได้ใช้อาวุธยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ โดยพวกเขาระบุว่าในป่าสวนยาง หนึ่งในคนที่วิ่งหนีอยู่ในท่านั่งประทับปืนเตรียมยิงเข้าใส่ จึงได้ยิงออกไปก่อนเพื่อจะป้องกันตัวเอง
ในเรื่องของอาวุธ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้การว่า อาวุธที่ผู้ตายคนหนึ่งใช้ยิงนั้นเป็นปืนสั้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีกรายระบุว่า ผู้ตายอีกหนึ่งคนใช้อาวุธปืนอาก้า ในรายงานข่าวที่ออกมาหลังปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นนั้น เจ้าหน้าที่ยึดอาวุธได้ปืนอาก้า 3 กระบอก ปืนพก.38 หนึ่งกระบอกและลูกระเบิดขว้างหนึ่งลูก
แพทย์จากโรงพยาบาลทุ่งยางแดงให้การว่า จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าผู้ตายส่วนใหญ่ถูกยิงจากด้านหน้าและโดนยิงรายละไม่ต่ำกว่าสามถึงหกนัด ขณะที่นายซัดดัมถูกยิงจากบริเวณศีรษะด้วย และเป็นคนเดียวที่ถูกยิงด้วยอาวุธสองชนิด โดยหนึ่งในนั้นเป็นอาวุธสงคราม
ทนายความได้ตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่หลายประการถึงรายละเอียดในช่วงการเข้าปฏิบัติการ แต่ส่วนใหญ่จะได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่ทราบ ไม่แน่ใจ จำไม่ได้ หรือไม่ได้สังเกต ทั้งเรื่องรายละเอียดการจัดแบ่งกำลังเข้าปฏิบัติการ เป้าหมายที่จะไปปิดล้อมตรวจค้น ลักษณะของบ้าน หรือพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็พบด้วยว่า ในการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนใช้วิธีพิมพ์คำให้การเป็นเอกสารมอบให้พนักงานสอบสวนแทนการให้ปากคำกับเจ้าพนักงานอันเป็นวิธีทั่วไป นอกจากนั้นปรากฏด้วยว่า พนักงานสอบสวนรับเอกสารคำให้การของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนไว้สามเดือนให้หลัง หลังจากที่มีปฏิบัติการ
การไต่สวนในวันแรกนี้ทำได้ทั้งหมด 3 ปาก ศาลได้นัดหมายไต่สวนเพิ่มเติมอีกในวันที่ 9 พ.ย. โดยที่เหลือจะเป็นเจ้าหน้าที่อีก 4 นายตามรายชื่อที่อัยการเสนอต่อศาล ขณะที่ทนายความตัวแทนครอบครัวผู้ตายเสนอชื่อเข้าไปอีก 22 คนซึ่งในจำนวนนี้รวมไปถึงคนบางส่วนจากจำนวนยี่สิบกว่าคนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในวันนั้นในบ้านเป้าหมาย
อนึ่ง ในคดีสี่ศพทุ่งยางแดง ก่อนหน้านี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื่องจากบรรดาญาติผู้เสียชีวิตไม่พอใจร้องเรียนว่า ผู้ตายไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง และไม่มีอาวุธ โดยในบรรดาผู้ที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของทางการในหนนั้น ยังรวมไปถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี คือ อิสมาอีลลุตฟี จะปะกิยาในฐานะที่สองในสี่รายที่เสียชีวิตเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปว่าผู้ตายทั้งสี่ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ไม่เป็นแนวร่วมและสรุปด้วยว่าอาวุธปืนไม่ได้เป็นของผู้ตาย ซึ่งทำให้อดีตแม่ทัพภาคที่สี่ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ ได้แสดงความเสียใจและขออภัยต่อครอบครัวผู้ตายและทุกฝ่าย ครอบครัวผู้ตายต่างได้รับเงินเยียวยาจากศอ.บต.รายละ 500,000 บาท
