ที่ ๐๐๕/๒๕๕๓
วันที่ ๒๑มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๓
แถลงการณ์
ประณามการใช้ความรุนแรงที่ สภ.เมืองปัตตานี
จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นสองครั้งเมื่อช่วงเช้าวันนี้บริเวณลานหน้าสภ.เมืองปัตตานี โดยคนร้ายไม่ทราบฝ่าย ๒ คนขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต ๑ นายบาดเจ็บกว่า ๔๐ นายทั้งนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสรายหนึ่งเป็นหญิง คือพ.ต.ต.หญิง กุมัณฐนา เบญจมานะ สารวัตรงานกิจการพลเรือนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี อีกทั้งยังได้เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมซ้ำอีกครั้งเมื่อเวลาประมาน ๑๐.๓๐น. บริเวณลานจอดรถห่างจากสภ.เมืองปัตตานีเพียง ๒๐ เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ ๕ ราย โดยทั้งหมดเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ซึ่งสัญจรไปมาในบริเวณนั้น โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งที่กองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า ได้มีมาตราการเข้มงวดในการตรวจรถต้องสงสัยทุกคันโดยการออกระเบียบให้ติดสติ๊กเกอร์ยานพาหนะที่ใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการจงใจแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายทารุณ และความต้องการลดทอนความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะที่มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการยั่วยุให้เกิดให้ความโกรธแค้น และสร้างความหวาดระแวงในระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนมากยิ่งขึ้น
คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพขอแสดงความสียใจอย่างสูงต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั่วไป รวมถึงศูนย์ปฏิบัติงานตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอประณามผู้กระทำผิด รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์
คณะทำงานฯขอเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยเฉพาะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า และทุกภาคส่วน ดังนี้
๑. ขอให้มีการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเป็นธรรม โดยขอให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์ร่วมมือในการให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ภายใต้การคุ้มครองพยานที่มีประสิทธิภาพ
๒. รัฐบาลต้องต้องดำเนินนโยบายการแก้ปัญหาโดยใช้การเมืองนำการทหารอย่างจริงจัง โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับต้องแสดงความจริงใจในการใช้สันติวิธี และหลักนิติธรรมในการแก้ไขปัญหา ควรเปิดพื้นที่ของการพูดคุยกับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อสะท้อนปัญหาของประชาชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของตนเอง
๓. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ต้องชี้แจงประชาชนต่อการที่รถบรรทุกวัตถุระเบิดซึ่งสามารถผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ทั้งที่ได้มีมาตราการในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
๔. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรแสดงจุดยืนในการปฏิเสธความรุนแรงจากทุกฝ่าย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำใดอันเป็นการละเมิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนทั่วไป
คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านซึ่งปฎิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน อดกลั้น ยึดหลักนิติธรรม และแนวทางสันติวิธีอย่างเคร่งครัด ด้วยความเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมจะฟื้นคืนความไว้เนื้อเชื่อใจในหมู่ประชาชน และสันติภาพย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยปราศจากความไว้วางใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง
................................