แถลงการณ์
วันที่14 ธันวาคม 2558
สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR)
กรณี เหตุการณ์ระเบิดที่กูโบร์
เมื่อ 13 ธ.ค.2558 เวลาประมาณ 06.50 น. ได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดบริเวณกูโบร์บ้านบ่อเจ็ดลูก ม.6 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 ราย และประชาชนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ผู้บาดเจ็บชื่อ นายอาซิ เจ๊ะดอมะ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.4 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ผู้เสียชีวิตชื่อ อส.ทพ.ชัยค์ เจ๊ะดอมะ ซึ่งเป็นบุตรชายของนายอาซิ เจ๊ะดอมะ เหตุเกิดขณะทำพิธีทางศาสนาที่กูโบร์ให้กับมารดาที่เสียชีวิตเมื่อ 10 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา
สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) ขอแสดงความเสียใจจากการสูญเสียครั้งนี้ของครอบครัวเจ๊ะดอมะอย่างสุดซึ้ง
ไม่ทันที่สังคมจะทำใจได้กับการตายปริศนาชวนให้สงสัยเคลือบแคลงใจเจ้าหน้าที่รัฐต่อกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลลายิบ ดอเลาะ ในค่ายทหาร ก็ได้เกิดเหตุการณ์สลดใจสร้างความหดหู่ซ้ำต่อสังคมอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ระเบิดที่กูโบร์ดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้สร้างความสงสัยของสังคมอย่างเคลือบแคลงใจต่อผู้คิดเห็นต่างที่เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐ หรือ ขบวนการปาตานีต่อต้านรัฐไทย เช่นกัน
หากความสลดใจอย่างหดหู่ซ้ำแล้วซ้ำอีกของสังคมท่ามกลางสถานการณ์สู้รบในบริบทของสงครามอสมมาตรระหว่างรัฐไทยกับขบวนการปาตานีต่อต้านรัฐไทย สังคมใช้ท่าทีการประณามผู้ก่อเหตุสลดใจดังกล่าวซึ่งสังคมและรัฐเองก็มีข้อจำกัดในการพิสูจน์ทราบว่าใครคือผู้ก่อเหตุตัวจริง การประณามดังกล่าวแน่นอนว่าอย่างน้อยที่สุดก็ได้ทำให้ผู้ประณามมีความสบายใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังไม่สอดคล้องตามหลักการของการสื่อสารสันติภาพ(Peace Journalism) ทั้งนี้ในทางรูปธรรมและความเป็นจริงก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นเลยในระดับนโยบาย เพราะทั้งรัฐและขบวนการฯต่างก็ยังใจจดใจจ่อกับความเชื่อมั่นในการดำเนินยุทธศาสตร์ตามแผนนโยบายของตัวเอง อย่างท้าทายประชาชนในพื้นที่ว่า จะเลือกอยู่ข้างไหนระหว่างรัฐกับขบวนการต่อต้านรัฐ เสมือนทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องใช้ความรุนแรงห้ำหั่นกันอย่างมีนัยยะสำคัญต่อบริบทสภาพของสงครามอสมมาตร ที่มีทั้งสองฝ่ายเป็นคู่ขัดแย้งหลักตามทฤษฎีของกระบวนการสันติภาพ
สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการัฒนา(LEMPAR) จึงมีข้อเสนอต่อกรณีเหตุการณ์สลดใจสังคมอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งมีแนวโน้มสูงส่งผลกระทบโดยตรงกับบรรยากาศของกระบวนการพูดคุยสันติสุขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยยกกรณีของเหตุการณ์ระเบิดที่กูโบร์และเหตุการณ์ประชาชนเสียชีวิตในค่ายทหาร เป็นกรณีตัวอย่างนำร่องให้ระดับนโยบายได้มีมาตรการอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อสร้างความกระจ่างชัดในความจริงที่เกี่ยวกับสองเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับสังคมโดยเร็ววัน เพราะคงไม่มีใครปฏิเสธว่า "ความจริงเท่านั้นคือตัวแปรสำคัญของความยุติธรรมและสันติสุข"
ข้อเสนอคือ คณะร่วมเพื่อการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากรัฐมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวก ตัวแทนจากรัฐไทยในฐานะคณะพูดคุยที่นำโดยพล.อ.อักษรา เกิดผล และMARA
"ควรต้องมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อสร้างความกระจ่างชัดในความจริงที่เกี่ยวกับสองกรณีตัวอย่างดังกล่าว ให้สังคมได้หายข้อสงสัยข้อเคลือบแคลงใจต่างๆในเร็ววัน"
ด้วยจิตรักสันติภาพและประชาชน
Statement dari LEMPAR Tentang kejadian bom di kubur
Statement dari Lembaga Patani Raya untuk Kedamaian dan Pembangunan (LEMPAR) 14 Desember 2015 Tentang kejadian bom di kubur Pada 06.50 masa tempatan tanggal 13 Desember 2015 berlakunya bom yang mengakhibatkan 1 tentera thai maut dan 1 orang rakyat awam cedera di kampung Bo cet look, wilayah Yala. Korban sakit yang bernama Aziz cekdomad usia 63 tahun dan korban mati Syek cekdomat adalah tentera upahan suka rela yang sedang menziarahi kubur ibunya yang telah meninggal pada 10 Desember 2015.
Lembaga Patani Raya untuk kedamaian dan pembangunan (LEMPAR) mengucap ta’ziah kepada keluarga cekdomad dengan penuh rasa sedih
kejadian kematian Abdullajib Dolah, penduduk awam mangsa martial law yang mati dalam tahanan tentera thai seminggu lepas, belum lagi terjawab kepada publik yang sedang bersedih dan ragu atas jawaban tentera dan kerajaan thai bahwah bagaimanakah kematianya.Sekarang ini tambah pula issuenya bom dalam kubur yang membingungkan dan menjadi soalan baru bagi public. Bagaimana pun kejadian baru ini mengalih perhatian public daripada kelakuan tentera thai kepada pihak pejuang pembebasan pula.
Kutukan demi kutukan dari masyarakat dan public terhadap 2 kejadian itu pada akhirnya juga tidak akan dapat membuktikan siapa pelaku sebenarnya itu. Keadaan huru hara dalam pembicaran dan membingungkan ini tidak seiring dengan prinsip peace Jurnalism. Hal-hal seperti ini tidak akan membuat keadaan menjadi lebih baik, kerana di antara pihak kerajaan thai dan juga pihak pejuang pembebasan masih saling melakukan kekerasan terhadap sesama dalam peperangan yang tidak seimbang padahal kedua pihak adalah peran utama dalam teori proses damai.
Dengan ini Lembaga Patani Raya untuk kedamaian dan pembangunan (LEMPAR) cuba untuk memberi masukan dalam hal ini yang akan menggoncangkan suasana “Bicara Happyness Talk” yang tidak boleh dihindar ini. Untuk menjadikan 2 peristiwa ini yaitu kematian orang awam dalam tahanan tetera dan bom di kubur sebagai kes study untuk melahir kecerahan dan kebenaran tentang 2 kejadian ini kepada public dan masyarakat secepat mungkin.
Karena dengan kebenaranlah akan membuahkan keadilan dan kedamaian Solusinya adalah team Bicara Happyness yang difasilitator oleh Malaysia, delegasi dari Kerajaan Thai yang di pimpin oleh jendral Aksara Kuetpol dan MARA
“mestilah melakukan entah bagaimana cara untuk mendapatkan kebenaran dalam 2 kejadian tersebut supaya menghilangkan kebingugan dan kesamaran secepat mungkin”
Dengan jiwa cinta rakyat dan kedamaian.