เผยแพร่เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 20:02 น.
ร่วมกันยกร่างกติกาการพูดคุยใกล้เสร็จสมบูรณ์ บรรยากาศเป็นมิตรมากขึ้นจนถึงขั้น “เซลฟี่” กันได้แล้ว
พลโทนักรบ บุญบัวทอง เลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขเปิดเผยถึงความคืบหน้าของกระบวนการพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างว่า การพูดคุยนัดต่อไประหว่างคณะของฝ่ายไทยกับกลุ่มมารา ปาตานี คาดว่าจะมีขึ้นภายในเดือนมีนาคมนี้ ในขณะที่การยกร่างกติกาสำหรับการพูดคุย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของสองฝ่ายขณะนี้ใกล้เสร็จสิ้นลงแล้ว ถือได้ว่าเสร็จไปแล้วประมาณ 95% ที่เหลือเป็นเพียงการจัดวางถ้อยคำเกี่ยวกับเรื่องของการไม่เอาผิด หรือให้ immunity แก่คณะพูดคุย เนื่องจากเป็นเรื่องของข้อกฎหมายต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ
ส่วนในเงื่อนไขข้ออื่นที่เดิมเป็นประเด็นทำให้ยังตกลงกันไม่ได้ ขณะนี้สามารถตกลงกันได้แล้ว กล่าวคือในเรื่องที่กลุ่มมารา ปาตานีต้องการให้กำหนดเรื่องกระบวนการสันติภาพและการพูดคุยให้เป็นวาระแห่งชาตินั้น ทางฝ่ายไทยจะกำหนดเรื่องนี้ไว้ในนโยบายการทำงานเรื่องภาคใต้ ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องผ่านความเห็นชอบของสภาปฎิรูปแห่งชาติหรือสปช.เสียก่อน
ส่วนประเด็นที่กลุ่มมารา ปาตานี ต้องการให้ทางการไทยยอมรับกลุ่มในฐานะตัวแทนของกลุ่มผู้เห็นต่างในการพูดคุยกันนั้น ได้ตกลงกันว่า จะเขียนไว้เป็นฟุตโน๊ตหรือหมายเหตุ
พลโทนักรบกล่าวว่า หลังจากที่พูดคุยกันในระดับคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคเพื่อกำหนดกติกาในการพูดคุยหรือทีโออาร์ได้เรียบร้อยแล้วนั้น ทีมพูดคุยชุดใหญ่ก็จะเริ่มพบปะหารือกันอย่างเป็นทางการ แต่จะไม่มีการลงนามใดๆ ลักษณะของการทำงานนั้น คณะพูดคุยชุดใหญ่ของรัฐบาลและของกลุ่มมารา ปาตานีจะคุยกันในประเด็นใหญ่ๆ เรื่องใดที่ตกลงจะทำ จะมีคณะทำงานชุดเล็กเป็นผู้ไปประชุมและกำหนดรายละเอียดร่วมกัน ในลักษณะเดียวกันกับที่ทำในเรื่องของทีโออาร์หรือการกำหนดกติกาการพูดคุยที่กำลังจะแล้วเสร็จ ยกตัวอย่างเช่น หากจะพูดคุยกันในเรื่องของการสร้างพื้นที่เขตปลอดภัย ก็จะมีการหารือในคณะพูดคุยชุดใหญ่ แต่คณะทำงานด้านเทคนิคชุดเล็กจะเป็นผู้กำหนดรายละเอียด เมื่อได้แล้วจึงนำเสนอชุดใหญ่ต่อไป เป็นวิธีการทำงานที่จะใช้ต่อไปในลักษณะนี้ และคณะทำงานไม่จำเป็นต้องมีสมาชิกหน้าเดิม สามารถสับเปลี่ยนได้ให้สอดคล้องกับเรื่องที่พูดคุยกัน
พลโทนักรบกล่าวด้วยว่า ขณะนี้กำลังรอให้ฝ่ายมารา ปาตานีนำเสนอเรื่องพื้นที่ที่จะนำมาหารือกันเพื่อสร้างเขตปลอดภัยร่วมกันอันเป็นก้าวถัดไปในการพูดคุยสันติสุข
“ขณะนี้การพูดคุยก้าวหน้าขึ้นมาก” เลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขของไทยกล่าว บรรยากาศของการหารือและพูดคุยเป็นไปด้วยดี สามารถคุยกันได้เองในบางครั้งโดยไม่ต้องมีผู้อำนวยความสะดวกหรือมาเลเซียเข้าไปนั่งอยู่ด้วย ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นมิตรต่อกันมากขึ้น “เราคุยกันเป็นภาษาไทยได้เลย ไม่ต้องมีล่าม เดี๋ยวนี้เซลฟี่กันได้แล้ว” พลโทนักรบกล่าว
ทั้งสองฝ่ายต่างให้สัมภาษณ์ไว้ตรงกันว่า ในการพูดคุยเพื่อสันติภาพภายใต้รัฐบาลชุดก่อนหน้ามีจุดอ่อนคือ ไม่วางพื้นฐานด้วยการสร้างความไว้ใจในกันและกันให้มากพอเสียก่อน