Skip to main content

Mfahmee Talib

ในชีวิตของการเป็นหมอ ทุกๆวัน คนไข้ที่เดินมาหาหมอ หรือมีคนหามมาส่งหมอล้วนมีโรค หรือมีความบกพร่องของร่างกาย และ สติ สมัยตอนที่เรียนหมอ เราจะท่องกันว่าโรคทั้งหลายทั้งปวงนั้นแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆอยู่ 4 อย่าง ได้แก่ 
โรคจากความบกพร่องทางพันธุกรรม (Congenital) กลุ่มโรคพวกนี้คือกลุ่มที่มีความผิดปกติก่อตัวตั้งแต่เริ่มต้นจัดโครงสร้างพันธุกรรม อาจจะแสดงอาการตั้งแต่เริ่มฟอร์มโครงสร้างร่างกาย หรืออาจจะแสดงอาการหลังเริ่มมีการเติบโตสักพักหนึ่งก็ได้ กลุ่มตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น โรคปากแหว่งเพดานโหว่ โรคดาวน์ซินโดรม โรคเพลทาวน์ 
โรคที่เกิดจากแรงภายนอก (Trauma) ก็ตรงไปตรงมาเลยว่าพวกอุบัติเหตุทั้งหลาย การสงคราม การใช้งานร่างกายอย่างหักโหมก็นับรวมในกลุ่มนี้ด้วยนะ
โรคที่เกิดจากก้อนเนื้อทั้งหลาย (Tumor) เป็นพวกโรคมะเร็ง และก้อนเนื้อที่งอกเกินมาแต่ไม่ใช่มะเร็ง 
และโรคที่เกิดจากจุลชีพทั้งหลายเราเรียกรวมๆว่าโรคติดเชื้อ (Infection) เอาละเราจะลืมโรคที่เกิดขึ้นจากสามกลุ่มแรกนั่นไปก่อนเลย เพราะวัคซีนเราจะไม่ยุ่งกับสามกลุ่มนั้น แต่วัคซีนของเรานี่คือศัตรูตัวสำคัญของสิ่งมีชีวิตคู่โลกของเราอย่างจุลชีพ จุลชีพนี่ถ้าจะให้พูดถึงจริงๆก็ย๊าว ยาว เพราะมันมีนับล้านๆชนิด เอาเป็นว่าตัวอะไรที่เล็กๆ เล็กจนตามองไม่เห็นเราเหมาๆว่ามันเป็นจุลชีพหมดเลยละกัน เราแบ่งกลุ่มจุลชีพเป็นกลุ่มหลักแบบนี้ แบคทีเรีย, ฟังไจ (ไม่ใช่ฟังเสียงหัวใจนะ), โปรโตซัว , สาหร่าย (สาหร่ายมันไม่ค่อยเกี่ยวกับวัคซีนเท่าไหร่นะ เพราะมันไม่ค่อยคุกคามมนุษย์มีแต่มนุษย์ใจร้ายไปคุกคามมัน จับมาทอดขายรวยเป็นพันๆล้านเลย) และไวรัส ซึ่งแต่ละกลุ่มของจุลชีพมีสมาชิกในเครือของมันรับร้อยนับพันชนิดเลย 

 

เอาละๆเข้าสู่โหมดคำถาม คำถามคือ จุลชีพมันมีหน้าที่ทำอะไร
จุลชีพนั้นเกิดขึ้นมาในธรรมชาติมานานแสนนาน มันมีบทหน้าที่ที่สำคัญมากในระบบนิเวศน์ที่จะรักษาสมดุลให้กับธรรมชาติ จุลชีพที่อยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร หรืออยู่ในน้ำ ก็มีหน้าที่รักษาสภาพสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น ให้ใกล้เคียงกับจุดสมดุลของระบบนิเวศน์ ซึ่งหมายถึงว่า ในระบบนิเวศน์หนึ่งๆ สิ่งมีชีวิตทุกตัวต้องได้รับพลังงานที่เหมาะสมแก่การอยู่รอด และสามารถสืบเผ่าพันธุ์รักษาชีวิตของสปีชีส์ตัวเองไว้ได้ จุลชีพจะหาที่อยู่ที่เหมาะสมกับสภาพของมัน บ้างก็อยู่ตามดินตามทราย บ้างก็อยู่ในน้ำ บ้างก็ต้องอาศัยร่างกายของสัตว์เป็นแหล่งพักพิง บ้างก็อาศัยอยู่ในพืช จุลชีพทั้งหลายอาจทำหน้าที่แตกต่างกันตามพื้นที่และฟังค์ชันที่มันทำได้ เช่น จุลชีพในดินทำหน้าที่ย่อยสลายสารอาหารต่างๆในซากสัตว์ซากพืชที่ตายแล้ว ให้พืชที่กำลังเติบโตได้ดูดซึมเอาไว้ใช้เป็นพลังงานในการเติบโต จุลชีพในน้ำทะเลก็จะทำหน้าที่คล้ายๆกัน สรุปแล้วจุลชีพทำหน้าที่เป็นตัวแปลงธาตุ ให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆได้ใช้ธาตุที่เหมาะสมกันต่อๆไปตราบนานเท่านาน

 

color:#141823">จากที่ฟังดูแล้วจุลชีพน่าจะเป็นสิ่งที่คู่ควรจะอยู่คู่โลก แต่เมื่อพิจารณาให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางของโลก มนุษย์จะบอกว่า เฮ้ยๆๆๆ มีจุลชีพบางส่วนไม่มีประโยชน์นะเฟร้ย เพราะมันทำให้ชีวิตมนุษย์นั้นสั้นลง ทำให้เราตายเร็วขึ้น พิกลพิการมากขึ้น ซึ่งความจริงมันก็เป็นส่วนน้อยของจุลชีพทั้งหมดนั่นแหละ แต่แน่นอนว่ามนุษย์เราคือสิ่งมีชีวิตที่วิเศษมาก พลังทางปัญญาที่พระเจ้าประทานให้มนุษย์นั้นทำให้มนุษย์ก้าวหน้าและต้องการเอาชนะอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ให้ได้ทุกสิ่งรวมถึงจุลชีพที่คุกคามชีวิตของมนุษย์ด้วย
 

ทำไมจุลชีพถึงทำให้เราป่วย และ ตายได้?
สัญชาตญาณสำคัญของสิ่งมีชีวิตคือการสืบพันธุ์ จะเล็ก-ใหญ่ ขาว-ดำ สั้น-ยาว แค่ไหน ทุกชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ล้วนต้องสืบพันธุ์ จุลชีพก็เช่นกัน จุลชีพที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มีไม่เยอะมากครับ ในปากอย่างเดียวแบคทีเรียประมาณห้าร้อยชนิด จากหลักล้านชนิด(กว่าจะออกเป็นอึ คงเพิ่มเป็นหลายหมื่นชนิด) คราวนี้จุลชีพพวกนี้มันจะต้องรักษาสัญชาตญาณความเป็นสิ่งมีชีวิตของมันเอาไว้ดัวยการแบ่งตัวๆๆๆ ไม่ยั้งเลยครับตอนมันอยู่ในร่างกายเรา

 

color:#141823">อาห์ห์ แบ่งตัวเยอะๆ ก็ดีสิครับ แต่เดี๋ยวก่อน เวลาที่มันแบ่งตัวเพิ่มมากขึ้น มันก็ต้องใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น แล้วถ้าพวกจุลชีพมันอยู่ในร่างกายเรา พลังงานที่มันเอาจะมาจากไหนอีกละ ถ้าไม่ใช่จากเซลล์ที่อยู่ในร่างกายเรา ถ้ามันแย่งเอาพลังงานที่มาจากร่างกายเรามากๆ เราก็จะไม่มีพลังงาน พวกจุลชีพนี่ไม่ได้สืบพันธ์เหมือนคนนะครับ ที่กว่าจะมีเพศสัมพันธ์ กว่าจะตกไข่ กว่าจะท้อง อีกเก้าเดือนกว่าจะได้เป็นตัว แต่พี่ๆจุลชีพมันสืบพันธ์แบบแบ่งตัวเองเป็นสองตัว หรือไม่ก็แบบแตกหน่อ จากตัวเดียวเป็นร้อยๆตัว การเพิ่มของมันจึงไม่ใช่แบบยกกำลังหนึ่ง แต่มันเป็นยกกำลังสองสามขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันแบ่งตัวมากๆเข้า มนุษย์เราก็จะซีเหง๋เก๋งพอดีเพราะไม่มีพลังงาน

 

color:#141823">การจำกัดจำนวนจุลชีพในร่างกายไม่ให้มากเกินทำได้สองแบบ แบบแรกคือจุลชีพหลายๆชนิดที่อยู่ในบริเวณเดียวกันเป็นตัวควบคุมจำนวนประชากรของมันกันเอง ถ้ามีชนิดไหนเริ่มแบ่งตัวมากๆ ชนิดอื่นๆก็อาจจะแย่งอาหารหรือตัดตอนกันเองให้มันแบ่งตัวได้น้อยลง อีกวิธีคือใช้เม็ดเลือดขาวที่เป็นภูมิคุ้มกันของเรานี่แหละที่จะไปหยุดยั้งการขยายพันธุ์ของมัน ไม่อย่างนั้นมันก็ยึดร่างกายเราไปหมดเลย จุลชีพบางตัวเป็นมิตรกับร่างกาย เม็ดเลือดขาวเจอก็ปล่อยผ่านไม่ทำร้ายไม่ฆ่ามัน ร่างกายก็ปกติดี แต่กับจุลชีพบางตัว เม็ดเลือดขาวเราไปเจอ ก็จะเขม่นทันที เปิดฉากสู้รบฆ่าฟันกันสนั่นหวั่นไหว เม็ดเลือดขาวก็จะแจ้งสมองให้ช่วยด้วย สมองก็จะตอบสนองให้ร่างกายมีไข้เพื่อให้จุลชีพอยู่ไม่สุข เพิ่มการขับถ่ายเพื่อเอามันออกไป ทำให้ร่างกายเราเบื่ออาหารเพื่อป้องกันไม่ให้มีจุลชีพอื่นมาเพิ่มก่อน ถ้าร่างกายเราชนะจุลชีพนั้นก็จะหายไป แต่ถ้าร่างกายเราแพ้ ร่างกายจะสั่งงานให้ทำหนักขึ้นเรื่อยๆ จุลชีพมันก็ขยายตัวของมันเรื่อยๆ ร่างกายก็จะตอบสนองด้วยการใช้เม็ดเลือดขาวมากขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้น อวัยวะทุกอย่างจะทำงานมากขึ้น และสุดท้ายก็จะล้มหายตายจากไป

 

color:#141823">กระบวนการทำให้คนเจ็บป่วยตายจากจุลชีพมีอย่างอื่นอีกการที่มันไปเจริญเติบโตในอวัยวะที่สำคัญ เช่น จุลชีพบางตัวพิเศษหน่อย ชอบไปอยู่แถวๆที่มีคอลลาเจนเยอะๆ (ที่พริตตี้ผสมขายในครีมหน้าเด้ง) ซึ่งที่ที่มีคอลลาเจนเยอะๆ ก็เป็นจุดสำคัญทั้งนั้น เช่นหลอดลม หรือลิ้นหัวใจ ถ้ามีจุลชีพตัวพวกนี้มาเมื่อไหร่ หลอดลมก็เหลวเละไปเลย หายใจไม่ได้ ตาย (เรียกโรคนี้ว่า คอตีบ หรือ Diphtheria) ลิ้นหัวใจพัง หัวใจวายตายเหมือนกัน (Endocarditis) จุลชีพบางตัวเติบโตได้ดีในเนื้อเยื่อสมอง ทำให้เนื้อสมองเกิดการอักเสบ (Encephalitis) พอโตแล้วต้องสร้างอาณาจักรของมันในสมองนั่นแหละ ทำให้ระบบประสาทคนผิดปกติ หรือล้มเหลวไปได้เลย

 

อย่างที่บอกว่าจุลชีพที่มีนับล้านชนิดนั้น ที่ก่อให้ร่างกายเราไม่สุขสบาย หรือก่อให้เกิดโรคนั้นมีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เราเรียกพวกก่อโรคนี้ว่า เชื้อโรคส่วนจุลชีพที่ไม่ก่อโรคเรียกว่า เชื้อประจำถิ่นหรือ “Normal flora”

 

เขียนมาตั้งยาว แต่พื้นที่หมดซะแล้ว ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามที่ค้างไว้จากตอนที่หนึ่งเลย เอาเป็นว่าตอนหน้าค่อยมาติดตามต่อไปนะครับ แต่ไม่รับปากแล้วว่าจะตอบคำถามของตอนที่หนึ่งทันหรือเปล่า

 

อ่านตอนที่แล้ว

โลกที่ไม่มีวัคซีน (1)