Skip to main content

 

Original Link Clik Here .

 

 

ซุปหางวัวชามละ 200 ชีวิตที่เมืองขอบชายแดน “สุไหงโกลก”

ร้านห้องแถวไม้ร้านนั้นยกพื้นขึ้นเล็กน้อย ตัวร้านเปิดโล่งและหันหน้าเข้าหาสามแยก ในร้านมีโต๊ะเก้าอี้แบบง่าย ๆ วางอยู่ไม่กี่ตัว ประตูด้านหลังร้านเปิดออกไปเห็นห้องครัวด้านในที่ผู้หญิงสองสามคนสาละวนอยู่กับหม้อที่มีไอพลุ่ง ยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้กับอากาศร้อนอ้าวของเดือนเมษายน แต่ความร้อนของอากาศและอาหารดูจะไม่เป็นอุปสรรค ผู้คนยังเดินเข้าร้านอย่างไม่ขาดสาย

ถ้วยซุปที่ข้างหน้าเรามีหางวัวสองชิ้นในน้ำซุปสีเข้มข้นโรยด้วยต้นหอมผักซีซอยพร้อมพริกขี้หนูสับกับหอมเจียว อีกถ้วยเป็นซุปกระดูกที่ดูจะมีของเป็นเนื้อมีหนังมากกว่า ถ้วยน้ำปลาพริกและมะนาวหั่นตามมาพร้อมข้าวและไข่เจียว อันที่จริงร้านซุปในสามจังหวัดภาคใต้นั้นมีอยู่มากมายจนคล้ายกับว่าซุปหลากประเภทเหล่านี้เป็นอาหารประจำถิ่นก็ไม่ปาน แต่ละร้านมีสูตรสำเร็จที่เป็นเคล็ดลับของตัวเอง

คนในร้านบอกว่า ซุปหางวัวร้านเล็ก ๆ ร้านนี้อยู่มายาวนานถึง 34 ปี “แรกเริ่มเราขายชามละ 20 บาทสำหรับซุปกระดูกและเนื้อ ส่วนซุปหางวัวเริ่มที่ 30 บาท” วสันต์ นิเต็ม เจ้าของร้านเล่า “แล้วก็ขยับราคาเรื่อยมา จนวันนี้ซุปกระดูกชามละ 100 ส่วนซุปหางวัวชามละ 200” ซุปหางวัวที่ขึ้นชื่อของร้านเป็นผลของการสะสมประสบการณ์การลองผิดลองถูกหลายปีกว่าจะได้สูตรที่ถูกใจและผู้คนติดใจ ลูกค้ามีทั้งขาประจำและขาจร บางรายอยู่ไกลถึงต่างเมือง ลูกค้าเก่าแก่บางคนที่เดินทางมาซื้อเองไม่ได้แล้ว ต้องให้ญาติมาซื้อก็มี บางรายอยู่ไกลต้องใช้วิธีแยกส่วนของอาหารและแช่แข็งส่งให้

ที่น่าแปลกใจก็คือ แม้จะอยู่มานานและลูกค้ามากมาย ร้านกลับอยู่ในสภาพที่เหมือนจะหยุดนิ่งอยู่กับกาลเวลา ผนังสองข้างที่เป็นไม้ดูคร่ำคร่า ขัดกับจำนวนลูกค้าที่เดินเข้าออกรวมทั้งราคาของอาหาร ซุปขายดีขนาดนี้ เหตุใดเจ้าของจึงไม่ขยับขยายร้านรับลูกค้าที่มากหน้าหลายตา ตักตวงโอกาสทางธุรกิจให้คุ้มค่ากับความสำเร็จ

“ไม่มีวัตถุดิบ” เขาบอก แต่ละวันที่ร้านไปซื้อหางวัว ซื้อได้อย่างมากก็สามเส้น บางวันก็ได้เส้นเดียว เพราะคนเชือดวัวเชือดเพียงเท่านั้น

วัว ดูเหมือนจะเป็นของหายาก คนทำร้านรู้ว่า วัวที่ขายกันทั่วไปนั้นมาจากราชบุรี และวัวก็เป็นอาหารที่แพง ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาการบริโภคเนื้อวัวจึงย่ำอยู่กับที่ พวกเขาเคยสั่งซื้อหางวัวจากจังหวัดใกล้เคียงหรือแม้แต่จากกรุงเทพฯ แต่ของที่ส่งไปไม่สด ซุปที่ทำออกมาก็ไม่อร่อย ความพยายามเพิ่มวัตถุดิบไม่ได้ผลในที่สุดต้องเลิกล้มความตั้งใจและทำเท่าที่มีให้ทำ หางวัวเส้นละเป็นพันบาท หนึ่งเส้นทำซุปได้อย่างมาก 6 ถ้วย ถ้ามีลูกค้าต้องการมากพวกเขาก็จะขายหางวัวผสมอย่างอื่นให้เพื่อที่จะได้ทำซุปหางวัวมากถ้วยขึ้นไปกว่านั้น และลูกค้าก็ต้องพอใจกับการแบ่งปันกันกินกับคนอื่นเช่นนี้ “ผมก็เคยคิดจะไปเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ” วสันต์เล่า แต่ก็พบว่าตัวเองไม่ชอบอยู่กรุงเทพฯ และเขาพึงพอใจกับร้านห้องแถวไม้และชีวิตในสุไหงโกลกแห่งนี้เสียแล้ว หลายครั้งที่คุยกัน สายตาของเขาเหลือบมองไปยังมัสยิดเล็กๆ ฝั่งตรงข้าม แน่นอนว่าการมีมัสยิดอยู่ใกล้บ้านนับว่าสะดวกอย่างยิ่งสำหรับการที่ตัวเองและคนในครอบครัวจะได้ไปละหมาดหรือปฏิบัติศาสนกิจ และการมีที่พึ่งทางใจใกล้ชิดกับศาสนาเป็นความปราถนาสำคัญอันหนึ่งของผู้คนที่นี่

สามสิบสี่ปีของการขายซุปหางวัว วันนี้วสันต์ นิเต็ม ย่างเข้าวัยแปดสิบกว่า แต่เขายังคงตื่นเช้า ไปตลาดเพื่อซื้อหางวัว กลับมาบ้านทำความสะอาด เผาขนและต้มหางวัวทุกวัน เขาบอกว่ามันเป็นการออกกำลังอย่างหนึ่ง เขาเคยทำงานบริษัทค้าไม้ซุงที่รือเสาะ วันหนึ่งพบว่าตัวเองตกงานเพราะรัฐบาลสั่งปิดป่า การจะไปหางานในเมืองหลวงดูจะเป็นสิ่งที่ยาก จะข้ามไปหางานฝั่งมาเลเซียก็ไม่มีญาติให้พึ่งพาอาศัย เขาตั้งใจไปหางานในสุไหงโกลกเพราะมีเพื่อนบอกว่า ที่เมืองชายแดนแห่งนี้มีลู่ทางทำมาหากินที่น่าจะเปิดโอกาสให้บ้าง

“วันนั้นผมเดินผ่านมาที่นี่ แล้วเข้าไปนอนในมัสยิด” เขาชี้ไปที่มัสยิดฝั่งตรงข้าม ที่นี่เขาได้คุยกับชายคนหนึ่งจนถูกชะตา หลังจากที่สารภาพไปตามตรงว่ากำลังหางานและยังไม่มีหนทางจะไป ชายคนนั้นเสนอให้เขาเข้าพักอาศัยในบ้านเช่าของตนเองที่อยู่ตรงข้ามกับมัสยิด เมื่อคนเช่าบ้านผู้ให้ที่พักพิงคนนั้นได้ออกไปแล้ว บ้านหลังนั้นก็กลายมาเป็นร้านขายซุปของเขาในเวลาต่อมา วสันต์และครอบครัวเช่าห้องแถวไม้ในราคาเดือนละ 500 บาท จนถึงขณะนี้ 34 ปีผ่านไป เขาก็ยังเช่าบ้านนี้อยู่ แต่ในราคาเดือนละ 2,500 บาท เจ้าของบ้านที่ให้เช่า เคยเสนอขายบ้านในราคาไม่กี่แสน แต่เขาก็ไม่มีเงินพอจะซื้อและยิ่งไม่ต้องการไปกู้หนี้ยืมสินเพราะเห็นว่าขัดหลักการของอิสลามในเรื่องการใช้เงินบ่มเพาะดอกเบี้ย เมื่อมาถึงวันนี้ ราคาบ้านคงจะเกินล้านยิ่งหมดความคิดจะซื้อ ได้แต่เช่าอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งทั้งเขาและครอบครัวก็พอใจเช่นนั้น

แต่ไม่ไกลไปจากร้านขายซุปหางวัว ความเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นจนเห็นได้ อาคารพาณิชย์ใหม่ผลุดขึ้นหลายแห่งไม่ต่างไปจากที่อื่นๆในสามจังหวัดภาคใต้ที่ความรุนแรงไม่อาจยับยั้งราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ไว้ได้ คนในสุไหงโกลกชี้ให้ดูอาคารพาณิชย์สร้างใหม่กลุ่มใหญ่บนถนนสายหลักซึ่งราคาเขยิบเข้าใกล้สี่ล้านบาท ส่วนในถนนย่อยสายหนึ่ง บ้านจัดสรรจำนวนมากที่เคยถูกทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จเพราะไม่มีลูกค้ามาเนิ่นนานหลายปี บัดนี้กำลังได้รับการปัดกวาดโดยนักธุรกิจที่เข้าไปประมูลซื้อมาได้เพื่อจะนำมาปรับเป็นตลาดใหม่เตรียมเปิดรับอาเซียน

 

สุไหงโกลกสำหรับหลายคนอาจจะเป็นเมืองแห่งความบันเทิงชายแดนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวบางประเภท วสันต์ชี้ว่าสุไหงโกลกมีจังหวะและวงจรของตัวเองตามแบบของเมืองชายแดน บางช่วงเศรษฐกิจในเมืองคึกคัก โรงแรมแทบไม่พอบริการผู้มาเยือน และเมืองนี้เคยมีโรงหนังถึงสามโรง แต่ก็มีช่วงที่ซบเซาเพราะสถานการณ์รุนแรงทำให้สภาพของสุไหงโกลก “ทรง” อย่างยาวนาน แต่เขาก็ไม่คิดจะย้ายไปไหน ร้านของเขายังพอใจกับการขายซุปหางวัวเท่าที่มีให้ขาย ความร่ำรวยดูจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาถวิลหา และทางเลือกของวสันต์และครอบครัวของเขาดูจะไม่ต่างไปจากอีกหลาย ๆ คนในพื้นที่สามจังหวัด แต่ขณะเดียวกันความสมถะของพวกเขาก็กำลังเผชิญความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาเคาะประตูบ้านในวันนี้