ข่าวในช่วงระยะเวลานี้ ของคนทำงานภาคประชาสังคม หรือคนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของการพูดคุยสันติภาพ คงหนีไม่พ้น ข่าวที่ พลโทนักรบ บุญบัวทอง ถูกปรับพ้นจากเลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพชายแดนใต้
การที่พลโทนักรบถูกปรับพ้นจากคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ส่งผลกระทบต่อกระบวนการสันติภาพในแง่ของความไว้วางใจ หรือการทำความเข้าใจต่อกระบวนการพูดคุยแน่นอน
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้เชิญ พลโทนักรบ มาบรรยายในเรื่องของสถานการการณ์พูดคุยสันติภาพให้กับพี่น้องไทยพุทธในฟัง และเท่าที่ติดตามข่าวล่าสุดเมื่อไม่กี่วัน ชุมชนศรัทธากัมบงตักวา ก็มีโอกาสได้เชิญ พลโทนักรบ มาคุยในเรื่องของกระบวนการสันติภาพ เช่นกัน
สิ่งเหล่านี้ ทำให้หลายๆ คนตั้งความหวังไว้กับคณะพูดคุยชุดนี้ ยิ่งพลโทนักรบ ลงพื้นที่บ่อยครั้ง ก็ยิ่งสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้นถึงแนวโน้มความเป็นไปได้
แต่หากการปรับเปลี่ยนเป็นไปตามเหตุผลของผู้บังคับบัญชา มันก็เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับใครที่จะมาแทนที่นั้น ก็คงต้องดูกันต่อไปว่าสามารถทำหน้าที่ได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพลโทนักรบ
จริงอยู่การพูดคุยสันติภาพไม่จำเป็นต้องยึดติดกับตัวบุคคล แต่การสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ขัดแย้ง หรือผู้เห็นต่าง และแม้กระทั้งความเชื่อมั่นต่อผู้อำนวยความสะดวกเอง ก็เป็นเรื่องจำเป็นเช่นกัน ที่สุดแล้วความเชื่อมั่นต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ติดตามกระบวนการพูดคุยสันติสุขก็เป็นเรื่องสำคัญ
แต่อย่างไรก็ตาม 12 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะไม่ใช้พื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่แห่งโอกาสในการสับเปลี่ยน หมุนเวียนการทำงาน มันควรจะเป็นพื้นที่ที่ให้โอกาสคน หรือบุคลากรลงมาช่วยกันทำงานมากกว่า
สิ่งที่ค่อนข้างจะกังวล ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการพูดคุยของคณะพูดคุยฯชุดใหญ่แบบเต็มคณะกับกลุ่มมารา ปาตานี ในวันพุธที่ 27 เม.ย.59 นี้ โดยเป็นการพบปะพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 จะเดินต่อไปอย่างไร คงต้องดูกันต่อไป
แต่สุดท้ายแล้ว ถึงแม้จะปรับเปลี่ยนใครก็ตามทีสันติภาพก็ยังต้องเดินต่อ ทุกช่วงเวลาของการพูดคุยจะมีความหมายต่อพี่น้องในพื้นที่ แน่นอน
ขอบคุณภาพ จาก ก้อย ติชิลา (Thai PBS)
