เหตุคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงผู้คนในไนต์คลับแห่งหนึ่งในเมืองออร์แลนโด้ (ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 50 ราย) ถูกบันทึกว่าเป็น mass shooting ที่ร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
ประธานาธิบดีโอบาม่าแถลงการณ์ถึงเหตุรุนแรงครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายและการกระทำแห่งความเกลียดชัง (an act of terror and an act of hate) เขาเรียกร้องให้อเมริกันชนร่วมกันยืนหยัดต่อต้านภัยจาก "กลุ่มคน" ที่คอยคุกคาม "พวกเรา" ("we will stand united, as Americans...to take action against those who threaten us") ทว่าการขีดเส้นแบ่งระหว่างความเป็น "พวกเขา" และ "พวกเรา" ในเหตุรุนแรงครั้งนี้ (เช่นเดียวกันกับเหตุกราดยิงที่ San Bernardino เมื่อปีกลาย) อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ Omar Mateen มือปืนในเหตุรุนแรงที่ออร์แลนโด้ เกิดและเติบโตในสหรัฐ แม้ว่าพ่อและแม่ของเขาจะอพยพมาจากอัฟกานิสถาน "เหตุก่อการร้าย" ครั้งนี้จึงอาจถือเป็น "ภัยคุกคามจากภายใน" (homegrown terrorism) มากกว่าภัยคุกคามจากภายนอกเสียด้วยซ้ำไป (แม้ว่าจะเริ่มมีข่าวปรากฏออกมาว่า Mateen มีส่วนเกี่ยวของกับ ISIS)
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์ที่ออร์แลนโด้ยังตอกย้ำถึง "ภัยคุกคามจากภายใน" อีกประการหนึ่ง นั่นคือ ปัญหาความแพร่หลายของอาวุธปืนในสหรัฐ โอบาม่าเองก็เน้นย้ำประเด็นนี้ในแถลงการณ์ของเขา: "This massacre is therefore a further reminder of how easy it is for someone to get their hands on a weapon that lets them shoot people in a school, or in a house of worship, or a movie theater, or in a nightclub." โอบาม่าสรุปว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องตัดสินใจว่าอยากจะมีชีวิตอยู่ในประเทศแบบนี้กันต่อไปหรือไม่ เขาย้ำว่า "การไม่ทำอะไรเลย (แล้วปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไป) ก็เป็นการตัดสินใจเลือกอย่างหนึ่งเช่นกัน" ("And we have to decide if that’s the kind of country we want to be. And to actively do nothing is a decision as well.")
ฟัง/อ่านแถลงการณ์ของประธานาธิบดีโอบาม่าว่าด้วยเหตุกราดยิงที่ออร์แลนโด้ที่ https://www.whitehouse.gov/…/president-obama-tragic-shootin…