รัฐประหารตุรกี อย่างไร ? ทำไม ?
------------------------------------------------------
สรุปบทความ http://www.turkpress.co/node/23956
ดร.มุศตอฟา มะฮ์มูดอุฆโล
-----------------------------------------
ขอบคุณภาพจาก http://www.sasapost.com/
ความล้มเหลวของกบฏตุรกีที่ผ่านมาไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอหรือเพราะผู้เข้าร่วมมีจำนวนน้อย
เราจึงไม่อาจมองข้ามอำนาจการทำลายล้างของพวกเขาได้
เบาะแสต่างๆ เริ่มแสดงให้เห็นถึงแผนสามานย์ของพวกเขา อีกทั้งผู้เข้าร่วมมีจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะนายทหารระดับนายพลและนายทหารระดับสูง รวมถึงความสามารถในการแทรกซึมเข้าถึงยอดปิรามิดของฝ่ายบริหารและฝ่ายความมั่นคง
กบฏสามารถชักชวนผู้เข้าร่วมได้จากทหารทุกชั้นยศ ทุกระดับ ทุกภาค ทุกหน่วย ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
พวกเขาสามารถสั่งการทหารได้เกือบทุกจังหวัด ทุกเมือง ทุกฐานทัพ ทุกสนามบินและทุกกรมกอง
การจับกุมตัวผู้บัญชาการทหารสูงสุด การยึดฐานทัพอะกันจี ที่มีเครื่องบินรบประมาณ 60 ลำ รวมถึงการประกันความพร้อมในด้านการสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากเครื่องบินรบที่ตั้งอยู่ที่ฐานทัพใหญ่แองกีร์ลีก
ปัจจัยเหล่านี้บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนและเพียงพอที่จะเข้าใจได้ถึงความร้ายแรงและขนาดของปฏิบัติการครั้งนี้
เครื่องบินรบ 6 ลำที่มาจากฐานทัพเดรบักร์ ที่ห่างไกลอย่างสุดกู่จากศูนย์กลางการปฏิบัติการในเมืองแองการ่าและอิสตันบูล บ่งชี้ว่าอำนาจของกบฏครอบคลุมทั่วตุรกีแม้แต่ดินแดนที่ห่างไกล
ในด้านการแทรกซึม การเข้าถึงเขตปลอดภัยสูงสุดที่ไม่ควรมีผู้ที่ไม่แน่ใจในความจงรักภักดีแม้แต่หนึ่งในพันล้านส่วน แต่ทว่า แม้แต่ทหารรักษาความปลอดภัยทำเนียบประธานาธิบดี ก็เป็นฝ่ายกบฏ
หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดี ก็เป็นฝ่ายกบฏ
ผู้ที่ดูแลตารางปฏิบัติงานรายวันของประธานาธิบดีก็เป็นฝ่ายกบฏ
ลองจินตนาการ หากนายทหารรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีรู้ถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของท่านในสถานการณ์เป็นตาย สามารถรายงานเส้นทางการบินหลบหนีการจับตัวจากเมืองมารมะริสสู่อิสตันบูล ให้กับเครื่องบินขับไล่ f16 เร็วกว่าเสียงที่บินลาดตระเวนอยู่เหนือน่านฟ้าอิสตันบูลได้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
จะเกิดอะไรขึ้นหากกบฏสามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์ได้ทั้งหมด ?
แม้ว่าแผนการจะแยบยล ผู้ร่วมมือจะมหาศาล แต่ว่ายังมีสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด
ความอุปถ้มป์ของอัลลอฮ์ยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง
การเปลี่ยนเวลาปฏิบัติการจากเช้าวันเสาร์เป็นค่ำวันศุกร์ ทำให้แผนการระส่ำ
เมื่อผู้นำสูงสุดของกองทัพถูกกบฏจับตัว แม้ว่าจะขาดการติดต่อใดๆกับหน่วยงานต่างๆ แต่หน่วยข่าวกรอง ทหารที่ไม่ยอมรับการก่อรัฐประหาร ก็ยังระแคะระคายกับกระแสข่าวรัฐประหาร รวมถึงการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวของกองกำลังพิเศษและตำรวจ มีส่วนทำให้รัฐประหารครั้งนี้ล้มเหลว
แต่ 2 ปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งยวดที่นำมาซึ่งชัยชนะต่อกบฏคือ หนึ่ง ความเด็ดเดี่ยวใจสู้ของผู้นำประเทศ ที่ตัดสินใจโดยไม่ลังเล ไม่ยอมหลบหนีเอาตัวรอด แต่กล้าเสี่ยงลงมาบัญชาการการต่อสู้ภาคสนามด้วยตนเองอย่างไม่กริ่งเกรงต่อความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้นำคนใดทำได้เช่นนี้มาก่อน และประการที่สอง ประชาชนมือเปล่าทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ ทั้งภาคประชาสังคมและสื่อสารมวลชน ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทุกแนวคิด ออกมาประท้วงตามจัตุรัส กล้าท้าทาย ขัดขวางรถถัง รถหุ้มเกราะตามถนนหนทางต่างๆทุกมุมเมือง
เมื่อผู้นำกล้าอยู่แนวหน้า ชาวประชาก็ว่าตามโดยไม่ลังเล
รัฐประหารล้มเหลว แต่สงครามยังไม่จบ
วันนี้ก็ได้เริ่มใหม่อีกครั้งแล้ว
คำถามคาใจ
ทำไมฝ่ายกบฏจึงสามารถแทรกซึมเข้าถึงเขตที่ต้องมีความปลอดภัยสูงสุดได้
ทำไมพวกเขาสามารถอยู่ในตำแหน่งรายล้อมประธานาธิบดีได้
ทำไมแม้แต่หน่วยข่าวกรองก็ไม่ระแคะระคาย นอกจากในช่วงเวลาก่อนปฏิบัติการเพียงไม่กี่ชั่วโมง