ออตโตมาน- ตุรกีย์ ประวัติศาสตร์คงย้อนรอยเป็นกงจักร
นพ.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ
ขอบคุณภาพจาก http://historysaranaru.blogspot.com/2014/09/blog-post_21.html
ในสมัยอาณาจักรออตโตมานตอนปลาย ตุรกีย์ซึ่งมีพรมแดนติดกับทวีปยุโรป จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบปะปะทะกันทางทหาร กับประเทศรอบข้างที่มีทั้งมหาอำนาจทางการเมือง และได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจให้รังควานความมั่นคงของออตโตมานอยู่เรื่อยๆ ออตโตมานเป็นอาณาจักรใหญ่ พื้นที่ของอาณาจักรเป็นที่หมายปองของนักล่าอาณานิคม
ในขณะที่การเตรียมทัพสู้ศึกของออตโตมานยังเป็นแบบโบราณ วิชาการทหารในโลกสมัยใหม่นั้นร่ำเรียนกันแบบโรงเรียนนายร้อย ออตโตมานที่ต้องการปฏิวัติกองทัพให้ก้าวหน้า จึงต้องส่งทหารหัวกะทิ ไปร่ำเรียนวิชาการทหารยุคใหม่ และเปลี่ยระบบการผลิตทหารให้เป็นระบบโรงเรียนนายร้อย
โรงเรียนนายร้อยนี่เองที่ผลิต มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก และผองเพื่อนทหารที่มองเห็นความศิวิไลซ์แบบชาวยุโรปตะวันตกเป็นสรณะ และหลังจากยึดครองอำนาจ ก็สร้างรัฐตุรกีย์สมัยใหม่ให้เป็นดั่งประเทศยุโรป
ผลผลิตของโรงเรียนนายร้อย และระบบทหารใหม่(ในสมัยนั้น) ก็ก้าวเข้ามามีบทบาทในประเทศมากขึ้น นั่งอยู่ในตำแหน่งประมุขสูงสุดของประเทศ ผ่านการรัฐประหารและเลือกตั้งรวมก็หลายสิบปี และตัวระบบโรงเรียนนายร้อยแบบที่เป็นอยู่นี้ กลายเป็นที่ฝังรากลึกของลัทธิเคมาลิสต์ไป
กลเกมส์โต้กลับของประธานาธิบดีตุรกีย์ หลังโดนปฏิวัติ และพบว่าทหารในกองทัพนั้นเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่ต้องการก่อรัฐประหาร หรือแสดงความเป็นปรปักษ์กับท่านในฐานะผู้นำประเทศเต็มไปหมด
ประธานาธิบดีจึงมีคำสั่งปิดโรงเรียนนายร้อยไปซะเลย เพื่อสร้างสายพานการผลิตทหารขึ้นมาใหม่ เอาเบ้าหลอมในการผลิตทหารให้รัฐก็ต้องเปลี่ยนไป
ทหารยศนายร้อยจากเดิมที่ผลิตจากโรงเรียนนายร้อย จะย้ายฐานผลิตเป็นมหาวิทยาลัยการทหาร
กองทัพที่อำนาจเคยกระจุกอยู่แต่ภายใน ห้ามคนนอกเข้ามายุ่ง เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์เหมือนกองทัพในหลายๆประเทศก็จะถูกเปลี่ยนแปลง ให้ผู้มีอำนาจสูงสุดเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลามโหม (ซึ่งอาจเป็นทหารหรือพลเรือนก็ได้)
น่าสนใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่มากมายขนาดนี้ จะทำให้กองทัพที่ยังต่อต้านรัฐบาลอยู่จำนวนไม่น้อย จะอดทนอดกลั้นได้เท่าไหร่ ตราบเท่าที่อำนาจและอาวุธยังอยู่ในมือของทหาร การเมืองตุรกีย์ก็จะไม่คงไม่นิ่งต่อไป
การเอาชนะการกบฏของเออรโดอานครั้งนี้ เหมือนยิงนกทีเดียวได้สองตัว กุเลนนิสต์ และทหารเคมมาลิสต์ กลายเป็นนกไปซะแล้ว
ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของออตโตมานเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ในการเปลี่ยนระบอบการทหารภายในประเทศ หรือตุรกีย์ปัจจุบันจะกลับไปเปลี่ยนประวัติศาสตร์การทหารให้ตัวเองอีกครั้ง