Skip to main content

 

“อิสลาม” และ “มุสลิม”

----------------------

 

โดย ดร. อะหฺมัด เศาะก็อรฺ

ฎิยาอ์ แปลและเรียบเรียง

 

 

ศาสนานี้มีชื่อว่า “อิสลาม” ซึ่งรากศัพ์ของคำนี้คือ สิลมฺ และ สลาม ซึ่งหมายถึง สันติภาพ คำว่า “สลาม” ในอีกแง่หนึ่งก็หมายถึง การทักทายของบุคคลหนึ่งกับผู้อื่นด้วยความสันติ และหนึ่งในพระนามอันวิจิตรของอัลลอฮนั้นก็คืออัส สลาม(ผู้ทรงสันติ)

 

คำว่า “สลาม” ในอีกแง่หนึ่งก็หมายถึง การทักทายของบุคคลหนึ่งกับผู้อื่นด้วยความสันติ และหนึ่งในพระนามอันวิจิตรของอัลลอฮนั้นก็คืออัส สลาม(ผู้ทรงสันติ)

 

อิสลามมีความหมายยิ่งไปกว่านั้นอีก คือหมายถึง การยอมจำนนพระเจ้าเพียงองค์เดียว และการดำรงอยู่อย่างสันติพร้อมกับ(การเชื่อฟัง)พระผู้สร้าง ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในตัวตนของมนุษย์ จะเกิดขึ้นร่วมกับบุคคลอื่น และรวมไปถึงสภาพธรรมชาติด้วย

 

ฉะนั้น คำว่าอิสลามหมายถึงระบบทั้งหมดของการดำรงชีวิต มุสลิมคนหนึ่งได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่อย่างสันติและมีความกลมกลืนกับทุกส่วน(ของธรรมชาติ) ดังนั้น มุสลิมไม่ว่าจะเป็นใครอยู่ที่ไหนก็ตามในโลกซึ่งพวกเขาเหล่านั้นมีความเชื่อฟัง มีความจงรักภักดี มีความซื่อสัตย์ต่อพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล

 

“อัลลอฮ” พระเจ้าผู้ทรงเอกะ

 

อัลลอฮ คือพระนามหนึ่งของพระเจ้าผู้ทรงเอกะ อัลลอฮยังมีพระนามอันวิจิตรอีกเก้าสิบเก้าพระนาม(เท่าที่เปิดเผยให้มนุษย์ทราบ) อาทิ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงอ่อนโยน ผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงวิทยปัญญา และเป็นผู้พระอภิบาลแห่งสากลจักรวาล ผู้เป็นองค์แรก ผู้เป็นองค์สุดท้าย เป็นต้น

 

พระองค์นั้นคือ ผู้ทรงสร้างมนุษยชาติทั้งมวล พระองค์นั้นคือ พระเจ้าของคริสเตียน ยิว มุสลิม ชาวพุทธ ฮินดู พวกอเทวนิยม ฯลฯ มุสลิมเคารพสักการะพระเจ้า ซึ่งมีพระนามหนึ่งว่า อัลลอฮฺ พวกเขามีความเชื่อมั่นในพระองค์และแสวงหาความช่วยเหลือและทางนำจากพระองค์

 

“มุฮัมมัด”

 

มุฮัมมัดเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากพระเจ้าเพื่อนำมาสาส์น(ริซาละฮฺ)แห่งสันติภาพแห่งพระเจ้ามาให้(แก่มนุษยชาติ) ซึ่งก็คือ “อิสลาม”

 

ท่านเกิดในคริสตศักราชที่ 570 ในนครมักกะฮฺ ในดินแดนอาหรับ ท่านได้รับมอบหมายด้วยกับสาส์นแห่งอิสลามเมื่อท่านอายุ 40 ปี วิวรณ์(วะหฺยู)ที่ท่านได้รับมานั้นเรียกว่า “อัล กุรอาน” ขณะที่สาส์นนี้ถูกเรียกว่า “อิสลาม”

 

มุฮัมมัดเป็นศาสนทูตท่านสุดท้ายแห่งพระเจ้ามายังมวลมนุษย์ ท่านเป็นผู้นำสาส์นท่านสุดท้ายของพระเจ้า สาส์นของพระองค์เคยปรากฏมาแล้วในอดีตและในปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่กับชาวคริสเตียน ชาวยิว และมนุษยชาติทั้งมวล ท่านถูกส่งมายังผู้คนแห่งศาสนาเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อชี้แจงพวกเขาถึงภารกิจที่ถูกต้องของเยซู(อีซา) โมเสส(มูซา) ยาคอบ(ยะอฺกู๊บ) ไอแซค(อิสหาก) และอับราฮัม(อิบรอฮีม)

 

มุฮัมมัดจึงถูกถือว่าเป็นบทสรุปสุดท้ายของบรรดาศาสนทูตและผู้นำสาส์นทั้งหมดที่มาก่อนหน้าท่าน ท่านได้ทำให้สาส์นที่มีแต่เดิม(เตารอด อินญิล ฯลฯ )มีความบริสุทธิ์จากสิ่งเจือปน และทำให้สาส์นของพระเจ้ามายังมนุษยชาติทั้งมวลนั้นมีความสมบูรณ์ ตัวท่านเองถูกมอบอำนาจในการอธิบาย การตีความ และการดำรงชีวิตตามคำสอนแห่งอัล กุรอาน

----------------------

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ ศูนย์ประสานงานเพื่อความเข้าใจอิสลาม ยมท.