Skip to main content

 

LEMPAR และ บุหงารายา ร่วมงานประชุมภาคประชาสังคมและภาคประชาชนอาเซียน ณ ประเทศติมอร์เลสเตย์

 

เลขา เกลี้ยงเกลา

 

 

เมื่อวันที่ 1-5 สิงหาคม 2559 นายตูแวตานียา ตูแวแมแง ประธานสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) และ นายฮาซันยามาดีบุ ประธานกลุ่มบุหงารายา ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมการประชุมภาคประชาสังคมและภาคประชาชนอาเซียน ณ ประเทศติมอร์เลสเตย์

นายตูแวตานียา กล่าวถึงความเป็นมาของการประชุมนี้ว่า ทุกๆ ปีจะมีการจัดประชุมภาคประชาสังคมและภาคประชาชนอาเซียนคู่ขนานกับการประชุมของภาครัฐสมาชิกอาเซียน ซึ่งในปีนี้ประเทศลาวเป็นเจ้าภาพ โดยปกติการประชุมคู่ขนานจะจัดในประเทศของรัฐสมาชิกที่เป็นเจ้าภาพ แต่ในปีนี้ประเทศลาวไม่อนุญาตให้ภาคประชาสังคมและภาคประชาชนอาเซียนจัดประชุมได้ ต่อมามีมติจากคณะกรรมการให้เลือกประเทศติมอร์เลสเตย์เป็นเจ้าภาพ ในฐานะว่าที่รัฐสมาชิกอาเซียนประเทศที่11 สำหรับเหตุผลที่ภาคประชาสังคมชายแดนใต้ได้รับเชิญไปร่วมการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นของปาตานีกับติมอร์เลสเต้ มีการประชุมเชิงปฏิบัติการประเด็นผู้หญิงในพื้นที่ความขัดแย้ง และเพื่อมีโอกาสเชื่อมต่อกับเพื่อนในประเทศอาเซียนอื่นๆ ซึ่งคณะตัวแทนของไทยได้รับการต้อนรับและดูแลอย่างดีจากเจ้าภาพ รวมทั้งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากอัครราชทูตไทยประจำประเทศติมอร์เลสเตย์

สำหรับประเด็นที่ประชุมแลกเปลี่ยนกัน เป็นประเด็นปัญหาที่ภาคประชาสังคมและภาคประชาชนในทุกๆ ประเทศกำลังเผชิญอยู่ โดยมีการระดมข้อมูลข้อเท็จจริงและสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และสันติภาพของแต่ละประเทศ ตลอดจนหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาและความร่วมมือหนุนเสริมกันในอนาคต

“ประสบการณ์ที่ได้รับจากการประชุมในครั้งนี้คือ ทำให้ได้รับรู้รับทราบว่า 1.ปัญหาสิทธิมนุษยชนเป็นปัญหาสากลโดยตัวของมันเอง จึงชอบธรรมที่จะมีการหนุนเสริมให้ความช่วยเหลือกันข้ามพื้นที่ แม้ว่าจะอยู่คนละประเทศก็ตาม 2.เครือข่ายและการสื่อสารสาธารณะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการขับเคลื่อนของภาคประชาสังคมและภาคประชาชน ในการที่จะให้เกิดการหนุนเสริมซึ่งกันและกัน 3.ภาษาอังกฤษคือตัวแปรสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากจะให้ได้รับความช่วยเหลือจากสังคมระหว่างประเทศ

สำหรับภาคประชาสังคมในสายตาของรัฐบาลติมอร์เลสเตย์นั้น รัฐยอมรับและให้ความสำคัญกับภาคประชาสังคมมาก เพราะในการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาวติมอร์เลสเตย์นั้น ภาคประชาสังคมได้มีส่วนสำคัญโดยใช้การเคลื่อนไหวอย่างสันติวิธี อีกทั้งปัจจุบันภาคประชาสังคมได้เป็นกลไกและมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมประสานระหว่างรัฐกับประชาชน รัฐบาลติมอร์เลสเตย์ให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่กับภาคประชาสังคมที่ทำงานยึดโยงกับภาคประชาชน”

สำหรับทิศทางของปาตานีหรือชายแดนใต้นั้น ตูแวตานียาเห็นว่า ขึ้นอยู่กับการเมืองภาคประชาชนอย่างสันติวิธีของประชาชนชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการจะกำหนดทิศทางสันติภาพในอนาคตว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะทั้งรัฐและขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชต่างก็จะไม่มีความชอบธรรม หากประชาชนไม่ให้การสนับสนุน