Skip to main content

Click Original 

 

 

องค์กรภาคประชาสังคมที่มีทั้งพุทธและมุสลิมรวม 23 กลุ่มจัดกิจกรรมเดินรณรงค์เพื่อสันติภาพแสดงการสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพภาคใต้วันนี้ที่ปัตตานี พร้อมออกแถลงการณ์ขอให้ทั้งรัฐบาลไทยและกลุ่มมารา ปัตตานี เดินหน้าพูดคุยกันต่อไปแม้จะมีอุปสรรค และให้บรรจุวาระการหารือในเรื่องคุ้มครองพื้นที่สาธารณะไม่ให้มีการก่อเหตุร้าย

ก่อนจะถึงการประชุมร่วมเพื่อพูดคุยสันติสุขหรือสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยและกลุ่มมารา ปาตานีที่กัวลาลัมเปอร์ สมาชิกของกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมได้เชิญชวนประชาชนให้ไปร่วมเดินสันติภาพกับพวกเขาเช้าวันนี้ 1 ก.ย.โดยเริ่มต้นที่ริมแม่น้ำปัตตานีบริเวณเชิงสะพานศักดิ์เสนีย์ แล้วเดินไปตามพื้นที่ในตัวเมืองโดยหยุดที่จุดสำคัญต่างๆเช่นที่หน้าโรงเรียนและวัดตานีนารีสโมสร ตลาดโต้รุ่ง ตลาดเทศบาล รวมทั้งมัสยิดกลางปัตตานีเพื่ออ่านแถลงการณ์ที่มีข้อเรียกร้องต่อทั้งสองฝ่าย

แถลงการณ์ของคณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ระบุว่า ขอให้ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าพูดคุยกันต่อไปแม้จะมีปัญหาและอุปสรรค เพราะการพูดคุยเป็นความหวังของกลุ่มผู้หญิงและประชาชนที่ต้องการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และยังเรียกร้องให้บรรจุเรื่องของการสร้างพื้นที่สาธารณะให้ปลอดภัยเป็นหนึ่งในหัวข้อการพูดคุย เพราะถือว่าพื้นที่เหล่านี้ประชาชนทั่วไปที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสู้รบจำเป็นต้องใช้ โดยแถลงการณ์ระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวนี้มาจากการที่คณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทั้งกลุ่มผู้หญิงและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงรวมแล้วประมาณ 500 คนระหว่างเดือน ต.ค. 2558 - เม.ย. 2559

แถลงการณ์กล่าวด้วยว่า พื้นที่สาธารณะที่มีทั้งตลาด ถนนหนทาง โรงเรียน ศาสนสถานไม่ว่ามัสยิด วัด หรือโบสถ์ ซึ่งประชาชนใช้ในชีวิตประจำวัน “เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าและมีความหมายอย่างยิ่งต่อชีวิต อัตลักษณ์ และจิตวิญญาณของผู้หญิง ที่ครอบคลุมถึงผู้หญิงทุกวัย ทุกศาสนา ทุกภาษาและทุกชาติพันธุ์ในพื้นที่แห่งนี้” พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันทำให้พื้นที่ดังกล่าวปลอดภัย “เพื่อให้ผู้หญิงและพลเรือน ได้มีโอกาสใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะได้อย่างปกติสุข โดยไม่ต้องเผชิญกับความหวาดกลัว ความหวาดระแวงและความสูญเสียอีกต่อไป เพราะสันติสุข/สันติภาพ จะมีความหมายอะไร ถ้าไร้ซึ่งประชาชน”

โซรยา จามจุรี จากเครือข่ายผู้หญิงเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หนึ่งใน 23 องค์กรในคณะทำงานวาระผู้หญิงฯเปิดเผยว่า ทางคณะทำงานได้ยื่นหนังสือให้กับผู้แทนของรัฐบาลไทยและกลุ่มมารา ปาตานีไปแล้ว เพื่อขอให้นำเรื่องการสร้างพื้นที่ปลอดภัยเข้าเป็นวาระในการพูดคุยและขอให้พูดคุยอย่างเป็นจริง และทั้งสองฝ่ายต่างตอบสนองด้วยดี โดยรับปากว่าจะนำไปเสนอต่อผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งทางกลุ่มก็จะติดตามผลต่อไป

อย่างไรก็ตาม การประชุมร่วมของตัวแทนรัฐบาลไทยและกลุ่มมารา ปาตานีในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) ที่มาเลเซียยังเป็นเพียงการพบปะเพื่อจะพยายามหาทางตกลงร่วมกันให้ได้ในการกำหนดกติกาการพูดคุยหรือที่เรียกว่าทีโออาร์ คือ Terms of reference (TOR) ซึ่งที่ผ่านมายังเห็นต่างกันอยู่ทำให้การพูดคุยในเนื้อหาที่เป็นประเด็นปัญหาที่แท้จริงยังไม่เริ่มต้น แต่เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อคลี่คลายสิ่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการให้ความคุ้มครองแก่ทีมตัวแทนเจรจาของมารา ปาตานี กับประเด็นเรื่องการให้การยอมรับกลุ่มมารา ปาตานีด้วยการระบุอย่างใดอย่างหนึ่งไว้ในเอกสารทีโออาร์ ที่ผ่านมาไทยไม่พร้อมจะยอมรับทั้งสองประเด็นทำให้กระบวนการยกร่างทีโออาร์ชะงักงันมาหลายเดือน รายงานข่าวระบุว่า การพูดคุยหลังสุดของคณะทำงานด้านเทคนิคของทั้งสองฝ่ายเมื่อเดือนส.ค.ต่างมีท่าทีประนีประนอมกันมากขึ้น

ในเรื่องนี้โซรยาแห่งเครือข่ายผู้หญิงเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ระบุว่า ทางกลุ่มผู้หญิงอยากเห็นการตกลงกำหนดกติกาการพูดคุยหรือทีโออาร์ให้ก้าวหน้าและลุล่วง ทั้งนี้เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้พูดคุยในเรื่องอื่นๆต่อไปรวมทั้งเรื่องของการสร้างพื้นที่สาธารณะให้ปลอดภัยแก่ผู้หญิงและพลเรือน ซึ่งอันที่จริงเข้าใจกันว่าอยู่ในวาระที่จะพูดคุยกันอยู่แล้วในอนาคต “เรื่องของการสร้างพื้นที่สาธารณะให้ปลอดภัยสำหรับพลเรือน ไม่ว่าผู้หญิง ผู้ชายหรือเด็กที่ใช้ชีวิตมันเป็นความชอบธรรมของพลเรือนอยู่แล้วที่จะส่งเสียงออกไปเพื่อให้งดเว้นพื้นที่เหล่านี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ ใครทำให้พลเรือนเจ็บตายก็คงสูญเสียความชอบธรรมไปด้วย”