Skip to main content

 

 

ท่ามกลางบรรยากาศของความโศกเศร้า จากการที่ประเทศไทยได้สูญเสียศูนย์รวมจิตใจ และพ่อของแผ่นดินผู้ที่เป็นที่รักยิ่งของคนนับล้าน ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอาลัยเหมือนกับคนหลายๆคนที่อาจจะเคยมีประสบการณ์โดยตรงที่ได้เคยสัมผัสพบเจอ พระองค์ท่าน

ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาสองสามวันที่ผ่านมาหลังได้รับข่าวเสด็จสวรรคตของในหลวง ผมรู้สึก moved ไปด้วยกับบรรยากาศที่สังคมร่วมกันแสดงออกมา สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้า ขุ่นหมอง เหมือนบ้านเมืองนี้ไร้วิณญาณ เสียงเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงบรรเลงที่เหล่าศิลปินได้แต่งไว้เพื่อพระองค์ท่านตั้งแต่ก่อนที่จะเสด็จสวรรคต ได้ถูกเปิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า(แม็คโคร)ที่ผมเข้าประจำ สถานที่ราชการ คลื่นวิทยุ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงผลงานเปรียบเสมือน ต้นไม้ ที่พระองค์ทรงปลูกไว้เมื่อตอนยังมีพระกำลังทรงงานวันนี้มันได้งอกงาม ออกดอกออกผล ขยายกิ่งก้านสาขาได้อย่างน่าประทับใจ

ผมโตมาได้ผ่านการปลูกฝังข้อมูลที่หลากหลาย สุดโต่งทั้งสองด้านไม่ว่าจะเชิงบวกหรือเชิงลบ ตอนอยู่ ป.1 เคยได้เป็นตัวแทนไปร่วมร้องเพลง ต้นไม้ของพ่อ กับพี่เบิร์ด (ตอนนั้นเรียนที่ อนุบาลพิบูลเวศม์) ตื่นเต้นและดีใจมาก ฝึกฝนอย่างหนักจนกระทั่งวันร้องจริงผมเสียงแหบ ไม่สามารถขึ้นเวทีได้ เสียใจมาก

ต่อมาก็ได้สัมผัสกับกิจกรรมเต้นรำ ผมได้ถูกจับคู่กับเด็กสาวคนนึงชื่อแก้ม ตอนนั้นเต้นรำเพลงพระราชนิพนธ์ ใกล้รุ่ง ผมชอบเพลงนี้จนกระทั่งวันนี้เพราะทำนอง และเนื้อร้องมีความไพเราะมาก ผมโตมากับบรรยากาศที่ดีต่อบุคคลที่ได้ชื่อว่าพ่อของแผ่นดินไทยมาโดยตลอด เมื่อผมย้ายมาอยู่ที่นราธิวาสตอนประถม จนกระทั่งเข้ามัธยม ประสบการณ์ที่ได้รับต่อในหลวงหรือที่คนมลายูเรียกว่า "ราจอ"นั้นเริ่มเจือจางลงอาจจะด้วยคนในพื้นที่ไม่ได้มีความผูกพันธ์เชิงอัตลักษณ์มากเท่ากับคนในภาคอื่น แต่ก็ได้ร่วมประกวดวาดภาพระดับจังหวัดถึงระดับภาคหลายครั้งและทุกครั้งก็จะเลือกวาดรูปพระองค์ท่าน ผมไม่รู้จริงๆว่าคนอะไร ถึงมีคนรักและเทิดทูนมากมายถึงขนาดนี้และทำไมผมถึง moved ไปกับสิ่งนี้ด้วย

ชีวิตในมหาลัยเริ่มมีข้อมูลหลายส่วนแทรกเข้ามา เริ่มอ่านงานจากต่างประเทศที่เขียนเกี่ยวกับพระองค์ท่านมากขึ้น ยอมรับว่าก็เคย "moved" ไปกับข้อมูลเชิงลบมากไม่น้อย แต่ด้วยความที่ผมชอบวิพากษ์ แม้กระทั่งความคิดของตัวเอง มันเลยถูกกรั่นกรอง จนทำให้เกิดการแยกแยะ ได้ครอบคลุมขึ้น สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถรับได้คือการปฏิเสธในสิ่งที่ตนไม่พยายามเข้าใจมัน ไม่ว่าเรื่องอะไร

ผมเคยมีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์งานเมื่อสามปีที่ผ่านมาในวังจิตรลดา ณ เวลานั้นหลายๆอย่างได้เปลี่ยนความคิดเชิงลบที่ผมมีต่อตัวพระองค์ท่าน ผมเห็นความจริง คำถามแรกที่เข้ามาในหัวคือพระมหากษัตริย์ ผู้ที่สามารถจะเป็นอะไรก็ได้ ซื้ออะไรก็ได้ ทำไมต้องใช้พื้นที่ในวังของตนเป็นแปลงเกษตร เลี้ยงวัว เลี้ยงปลา ปลูกข้าว ปลูกผัก ผมได้สัมผัสกับบรรยากาศการทำงานของเจ้าหน้าที่ในนั้นและประทับใจมากที่ ทุกคนมีความมุ่งมั่นและมีวินัยเพื่อขับเคลื่อนโครงการทุกๆโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนชาวไทย ผมรับรู้ได้ว่ากษัตริย์ที่มีรากมาจากเกษตร คือคนๆนี้จริงๆ ท่านมีความรู้และความสนใจและเข้าใจเรื่องดิน น้ำ เป็นพิเศษ ท่านตรัสมาตลอดว่า "น้ำคือชีวิต" ผมไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งเห็นผลกระทบต่างๆที่มาจากน้ำ และมาจากการไม่มีน้ำ ทำให้สำเหนียกถึงความพยายามของพระองค์ท่านในการจัดการปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด ตอนนั้นผมไม่ได้ตอบตกลงรับงานเนื่องจากหลายๆปัจจัย หนึ่งในนั้นคือภรรยากำลังตั้งท้อง ผมคิดว่าผมไม่สามารถมาทำงานประจำที่หนักโดยไม่มีเวลาให้เธอได้ (ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแต่ก็แอบแวบไปๆมาๆได้) ผมคิดว่าถัาผมเลือกทำ ผมจะต้องแอคทีฟเหมือนคนอื่นๆเขาอย่างเป็นกิจวัตร ซึ่งมันไม่ใช่จริตผมอยู่แล้วเพราะผมขี้เกียจ ฮ่าๆๆ

หลายๆโครงการในพระราชดำริที่สร้างประโยชน์จริงให้กับผสกนิกร รวมทั้งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นปรัชญาที่มีความลุ่มลึกมาก สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของอิสลามหลายๆมิติ เป็นปรัชญาที่ตอบโจทย์ความเป็นจริงของคนไทยอย่างมาก เพราะถือเป็นทฤษฏีทวนกระแสโลกาภิวัตน์ และทุนนิยมที่ตามมา หากทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจะเข้าใจว่า มันสามารถนำมาปรับใช้กับวิธีคิดในการทำงานของผู้บริหารองค์กรได้จริง และสิ่งนั้นทำให้เกิดความสุข เนื่องจากความทุกข์ของมนุษย์คือความไม่รู้จักพอ ทำให้ต้องเบียดเบียนคนอื่นไปทั่ว ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ยึดติดกับยศฐาบันดาศักดิ์ ยอมแม้กระทั้งใช้เงินมาแลกเพื่อให้ได้ตำแหน่ง สิ่งเหล่านี้คือผลของการไม่รู้จักพอ

การเป็นประมุข ผู้เป็นศาสนูปถัมอย่างแท้จริง ถือเป็นสิ่งที่ทำให้พระองค์ท่านแตกต่างจากกษัตริย์ในที่อืนๆ ความใจกว้างที่จะเปิดรับความแตกต่างของความเชื่อความศรัทธา การปฏิบัติ ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่องและเทิศทูน มุสลิมในประเทศไทยโชคดีกว่ามุสลิมในประเทศมุสลิมด้วยกันเองอีกหลายๆประเทศด้วยซ้ำไป ที่สามารถปฏิบัติศาสนกิจในแบบที่ตนเชื่อได้อย่างเสรี สิ่งนี้อาจมีคนแย้งมาว่าเป็นผลของ secularism แต่หากลองมองดูดีๆ พื้นที่ของมุสลิมในสังคมโดยเฉพาะระดับโครงสร้างหลักมีมาตั้งแต่ก่อนประชาธิปไตยจะมาถึงเอเชียอาคเนย์เราเสียอีก

ท้ายนี้ ผมมั่นใจว่าเจตนารมณ์ของพระองค์ท่านในฐานะกษัตริย์ผู้ทรงธรรมคือหวังให้ปวงชนชาวไทยเป็นคนดี อยู่ในศีลธรรม การผดุงไว้ซึ่งศาสนาคือการการันตีความตั้งใจที่จะให้ศาสนาเป็นแม่เหล็กจูงใจคนให้เข้าถึงศีลธรรมในศาสนาของตนให้มากที่สุด การอาลัยอาวรถึงขนาดต้องไปเบียดเบียนพื้นที่ของผู้ที่แสดงออกไม่เหมือนเราคงไม่ใช่เจตนารมณ์ที่แท้จริง และไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน เพราะสิ่งนี้สะท้อนความสุดโต่ง และความมัวเมากับอีโก้ของตน ไม่มีเหตุผล เพราะผมมั่นใจว่าพระองค์ท่านคงไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาฆ่าแกงกันในนามของพระองค์ท่านแน่นอน

สานต่อความดีต่อไปอย่างมีสตินะครับ

ขอร่วมในความโศกเศร้าอย่างให่ญหลวงพร้อมพสกนิกรชาวไทยนับล้านคนทั่วโลก ไม่มีคำพูดใดๆที่จะแสดงออกถึงความลึกซึ้งในใจที่บอกไม่ได้ถึงความศูนย์เสียในครั้งนี้

ติรมีซี ยามา

ผู้บริหารไฉไล เบอร์เกอร์

16/10/2016