Click Original Link BBC Thai
โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯแน่นอนแล้ว
ผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดใน 46 รัฐ เมื่อเวลา 15.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ปรากฎว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน มีคะแนนนำนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอยู่ที่ 278 / 218 คะแนน ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่านายทรัมป์ มหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฝีปากกล้า จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ อย่างแน่นอนแล้ว
นายโดนัลด์ ทรัมป์ อายุ 70 ปี เกิดที่ย่านควีนส์ในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชากรเกิดเพิ่มขึ้นมากหลังสงครามหรือยุคเบบี้บูม พ่อของเขาเป็นนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ และมารดาเป็นผู้อพยพชาวสก็อตที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ จึงทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องการเงินและการเก็บออมตั้งแต่เด็ก เมื่อทรัมป์ย่างเข้าสู่วัยรุ่น พ่อเคยส่งเขาไปเข้าโรงเรียนฝึกทหารของรัฐนิวยอร์ก แต่ในที่สุดเขากลับสำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ จากคณะบริหารธุรกิจวอร์ตันที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
หลังสำเร็จการศึกษาได้ราว 3 ปี ทรัมป์ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในย่านแมนฮัตตัน และเริ่มทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของตนเอง โดยประสบความสำเร็จในการซื้อโรงแรมที่เก่าทรุดโทรม มาปรับปรุงและเปิดตัวเป็นโรงแรมใหม่คือโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เมื่อปี 1980 ซึ่งกิจการนี้ทำให้เขาก้าวสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีคนหนึ่งของสหรัฐฯ ไม่กี่ปีต่อมา เขาได้สร้างตึกทรัมป์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นจุดเด่นหนึ่งของย่านแมนฮัตตัน โดยเขาอยู่อาศัยและตั้งสำนักงานในตึกนี้จนถึงปัจจุบัน
ทรัมป์เขียนหนังสือ The Art of the Deal หรือ “ศิลปะแห่งการเจรจาตกลง” ในช่วงปลายปี 1987 ซึ่งหนังสือนี้ขึ้นแท่นขายดีอันดับหนึ่งเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน และได้สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นที่รู้จักในระดับโลก ในฐานะนักธุรกิจผู้ช่ำชองและมหาเศรษฐีผู้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาด้วยตนเอง ตลอดช่วงทศวรรษ 1980 เขายังได้ขยายกิจการไปทำสายการบิน และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมด้วยการสร้างตึกสูงอีกหลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม ช่วงทศวรรษ 1990 เป็นช่วงชีวิตที่ไม่สู้ราบรื่นนักสำหรับทรัมป์ โดยเขาต้องหย่าขาดกับภรรยาคนแรกคืออิวานา และต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้กับเธอ หลังอิวานาพบว่าเขามีสัมพันธ์กับนางแบบสาว มาร์ลา เมเปิลส์ ซึ่งต่อมาเป็นภรรยาคนที่สองของเขา นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่สั่นคลอนวงการอสังหาริมทรัพย์ของนครนิวยอร์ก ยังทำให้อาคารหลายแห่งของทรัมป์ รวมทั้งทรัมป์ พลาซา ต้องยื่นขอเป็นกิจการล้มละลาย และตัวทรัมป์เองมีหนี้สินสูงกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทรัมป์กลับฟื้นคืนสู่ความเป็นมหาเศรษฐีดาวรุ่งอีกครั้ง หลังขายกิจการบางส่วนเพื่อใช้หนี้ และได้เข้าซื้อสิทธิในการบริหารเวทีประกวดนางงามจักรวาลและนางงามสหรัฐอเมริกา ในปี 2004 เขาได้เป็นพิธีกรและผู้บริหารรายการเรียลลิตี้ โชว์ The Apprentice โดยเขาเป็นผู้ตัดสินการประชันความสามารถทางธุรกิจของผู้เข้าแข่งขัน ทรัมป์สมรสเป็นครั้งที่สามกับเมลาเนีย นางแบบสาวเชื้อสายสโลวีเนียในปีต่อมา
ทรัมป์เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองในช่วงปี 1999 โดยพยายามผลักดันให้ตนเองได้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคปฏิรูป (Reform Party) ซึ่งภายหลังเขากลับถอนตัวเนื่องจากความวุ่นวายภายในพรรค อย่างไรก็ตาม ในปี 2015 เขาประกาศจะลงแข่งขันเพื่อเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเสนอนโยบายลดภาษี ส่งเสริมการถือครองอาวุธปืน และควบคุมการอพยพเข้าสหรัฐฯของคนต่างชาติอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้เขาตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง
หมายเหตุ รายงานข่าวชิ้นนี้เผยแพร่ครั้งแรก ที่ BBC ไทย