อิสลาม : แนวคิดแห่งสันติ ตอนที่ 2
----------------------------
โดย ดร. ญะมาล บะดาวียฺ
หากเราดูในอัลกุรอาน คัมภีร์อัลกุรอาน คัมภีร์ของมุสลิม เราจะเห็นว่าคำกล่าวจำนวนมากของท่านศาสนทูตของอิสลาม นบีมูฮัมมัด (ขอความสันติและความจำเริญจงมีแด่ท่าน) เราพบว่ามีประเด็นที่หลากหลาย ประเด็นในศาสนา มีหลายครั้งที่พูดถึงการตอบแทนนรกสวรรค์ ซึ่งแสดงถึงหรืออ้างอิงถึงวันสิ้นโลกหรือชีวิตหลังความตาย เราจะพบว่าส่วนมากของประเด็นสำคัญที่อยู่ในอิสลามล้วนมาจากฐานรากเดียวกัน (س ل م) นั่นคือสันติภาพที่เกิดจากการยอมจำนน อย่างไรน่ะหรือ?
ประการแรก หนึ่งในคุณลักษณะซึ่งคุณสามารถเรียกว่าพระนามก็ได้แต่มันเป็นมากกว่าพระนาม คุณลักษณะหนึ่งของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้าง คือ “อัส-สลาม” เราพบคำนี้ในซูเราะห์ อัล ฮัชรฺ ซูเราะห์ที่ 59 ในอัลกุรอ่าน ที่อัลลอฮฺเรียกพระองค์เองว่า อัส-สลาม ซึ่งแน่นอนว่าในความหมายทางภาษาหมายถึงสันติ แต่แท้ที่จริงหมายถึงพระเจ้า หรือ อัลลอฮฺ ผู้ทรงความศานติสุข ผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาของสันติภาพทั้งมวลนั่นเอง
ประการที่สอง สุขาวดีหรือสรวงสวรรค์ที่บางคนเรียกกัน สถานที่ซึ่งชีวิตจะต้องไปเยือน ถูกขนานนามว่า ดารุส-สลาม ซึ่งหมายถึงที่อยู่อาศัยหรือบ้านแห่งสันติสุข เพราะที่แห่งนั้นคือสถานที่แห่งสุดท้ายที่ไร้ซึ่งความขัดแย้ง ความเคียดแค้น ชิงชัง ดังที่อัลกุรอานแจ้งให้ทราบว่า ทุกสรรพสิ่ง ณ ที่นี่ ล้วนศานติ ทุกสรรพสำเนียงที่ได้ยินล้วนศานติ และประเด็นที่สำคัญมากคือมันอยู่บนฐานรากเดียวกัน
ประการที่สาม อัลกุรอานชี้ให้เห็นว่าเมื่อผู้คนเข้าสู่สรวงสวรรค์ บรรดาผู้ศรัทธาที่กำลังเข้าสู่สวรรค์ คำกล่าวต้อนรับที่พวกเขาได้รับจากผู้ทรงสร้าง คือคำทักทายด้วยความสันติ ตามที่เราพบในซูเราะห์ ยาซีน ซูเราะห์ที่ 36 ในอัลกุรอานว่า “ความศานติ !” (ความหมายของคำกล่าวทักทาย) พระดำรัสหนึ่งจากพระเจ้าผู้ทรงเมตตาเสมอ
ประการที่สี่ อัลกุรอานยังได้กล่าวอีกว่า เมื่อผู้คนเข้าสู่สรวงสวรรค์ บรรดามลาอิกะฮฺจะอยู่ที่นั้นเพื่อทักทายพวกเขา และอัลกุรอานแจ้งให้ทราบว่า “มลาอิกะฮฺต่างร่วมยืนรอเพื่อบรรดาผู้ศรัทธา จากทุกๆประตูสวรรค์ เพื่อกล่าวอวยพรพวกเขาด้วยคำทักทาย ขอความสันติจงมีแด่ท่านทั้งหลาย”
ประการที่ห้า อัลกุรอานยังได้บอกให้เราทราบว่า เมื่อผู้คนทักทายกันและกันในสรวงสวรรค์ การทักทายของพวกเขาคือคำทักทายแห่งสันติ อัลกุรอานได้กล่าวว่า “คำทักทายร่วมกันระหว่างพวกเขานั้นคือคำทักทายแห่งสันติ”
ด้วยความเข้าใจเช่นนี้ ขณะนี้ เราจึงเห็นได้ว่าสันติภาพมิใช่เพียงแค่แนวคิดในเชิงนามธรรม มันมิใช่เป็นเพียงเนื้อแท้ที่อยู่ในองค์ประกอบของคำว่า “อิสลาม” เท่านั้น แต่ยังมีอยู่ในด้านศาสนศาสตร์เป็นจำนวนมากด้วย เราอาจจะเพิ่มเติมประเด็นนี้ได้อีกคือ เป็นที่รับทราบกันดีว่า มีเพียงคำทักทายเพียงหนึ่งเดียวซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการใช้จากมุสลิมกว่าร้อยล้านคนทั่วโลกโดยไม่คำนึงถึงพื้นเพทางด้านภาษา
ในความเป็นจริง การทักทายดังกล่าวได้รับการหลอมรวมในความหลากหลายทางภาษาซึ่งถูกใช้โดยมุสลิม มันคือกุญแจสู่หัวใจของมุสลิม ไม่ว่าคุณจะมาจากอัฟริกา จากเอเชีย จากยุโรป จากอเมริกา คุณต่างใช้มัน เพียงแค่กล่าวแก่มุสลิมว่า “อัสสลามุ อะลัยกุม” ความหมายคือ(ความสันติจงมีแด่ท่าน) หรือ “อัสสลามุ อะลัยกุม วะรอฮฺมะตุลลอฮิ วะบารอกาตุฮฺ” (ขอความสันติ ความเมตตา และความจำเริญจากอัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน) โดยไม่คำนึงถึงชาติกำเนิด พวกเขาจะเข้าใจว่าคุณได้พูดถึงอะไร
มันคือคำทักทายที่ธรรมดาสามัญที่สุดในโลก และเป็นคำทักทายที่มีความหมายที่ดีอีกด้วย ข้าพเจ้าเคยบอกเพื่อนในยุโรปและอเมริกาเหนือว่า ข้าพเจ้าไม่มีปัญหาอันใดหากใครบางคนจะกล่าวทักทายด้วยคำว่า “ไฮ”(hi) หรือ “เฮลโล่”(hello) ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ทราบความหมายของมันก็ตาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าทราบอย่างแน่นอนคือ คำทักทายที่ใช้ร่วมกันว่า“อัสสลามุ อะลัยกุม” (ความสันติจงมีแด่ท่าน) นั้นมีความหมายที่งดงาม
คุณรู้อะไรไหมครับ ข้าพเจ้าได้บันทึกข้อความในโทรศัพท์ที่บ้าน แน่นอนว่าเป็นเช่นเดียวกับที่ผู้คนจำนวนมากได้ทำ และข้อความที่บันทึกเริ่มต้นด้วย “อัสสลามุ อะลัยกุม วะรอฮฺมะตุลลอฮิ วะบารอกาตุฮฺ” (ขอความสันติ ความเมตตา และความจำเริญจากอัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน)
แม้หากข้าพเจ้าอยู่ที่บ้านและสามารถที่จะรับโทรศัพท์ได้ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้ากล่าวโดยไม่คำนึงว่าใครที่กำลังพูดสายด้วย ข้าพเจ้ากล่าวว่า “อัสสลามุ อะลัยกุม วะรอฮฺมะตุลลอฮฺ” หรือ “อัสสลามุ อะลัยกุม” และนั่นได้กระตุ้นความสนใจและความสงสัยบางอย่างในหมู่ผู้คน โดยเฉพาะผู้ที่มิใช่มุสลิม
ส่วนมากของพวกเขาถามว่า “อะไรนะ คุณพูดว่าอะไร?”
ข้าพเจ้าตอบไปว่า “ข้าพเจ้าพูดว่า อัสสลามุ อะลัยกุม ซึ่งหมายถึงความสันติจงมีแด่ท่าน และนั่นคือคำทักทายของมุสลิม” คุณทราบไหมครับ หลายครั้งที่ข้าพเจ้าได้ยินผู้คนกล่าวว่า “โอ้ ความหมายดีนี่” นี่คือสัญชาตญาณความโน้มเอียงตามธรรมชาติในหมู่มนุษย์ที่แสวงหาความสันติ เมื่อการทักทายในที่นี่คือการทักทายแห่งสันติ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจ และจากความเข้าใจอันน้อยนิดของข้าพเจ้า คำทักทายดังกล่าวน่าประทับใจมากกว่าการทักทายด้วย“ไฮ”(hi) และ “เฮลโล่”(hello) ซึ่งมันงดงามกว่า จริงๆ ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของการพูดคุยก่อนนี้ ว่าสันติอยู่เป็นแกนหลักอันสำคัญในอิสลาม
อ่านที่แล้ว
อิสลาม : แนวคิดแห่งสันติ ตอนที่ 1
ที่มา : ศูนย์ประสานงานเพื่อความเข้าใจอิสลาม ยมท.