color:#1D2129">รถกระบะห้ามนั่งท้ายและเเคป : เรื่องที่อยากจะเล่าจากชายแดนใต้
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
[email protected],
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่าน
จากรณีคำสั่งตามมาตรา 44แก้ไข พ.ร.บ.จราจร เกี่ยวกับเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งทางตำรวจประกาศว่าจะมีการกวดขันบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และจับปรับจริงๆ ตั้งแต่วันที่ 5เมษายน นี้เป็นต้นไป ซึ่งส่งข้อกฎหมายดังกล่าวผลไปถึงการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ และห้ามนั่งในส่วนแคปของรถกระบะซึ่งไม่มีเข็มขัดนิรภัยด้วยเพื่อ ลดความสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนซึ่งเป็นความปรารถนาดีของรัฐ
ในขณะ โลกโซเชียลได้โพสต์ภาพตัดต่อ ล้อเลียนนโยบายดังกล่าวด้วยรูปต่างๆ เช่นการตักต่อภาพกระบรุ่นใหม่ โดยเอาท้ายรถออก รวมถึงการนั่งรถอย่างไรไม่ให้ถูกจับและอื่นๆ
สำหรับชายแดนใต้แล้วผู้เขียนอยากจะเล่าให้ฟังว่าปัจจุบันมีรถกระบะที่ใช้ผิดกฎหมายตามประกาศนี้ทังของชาวบ้าน ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ความขัดแย้ง ชาวบ้าน คนพื้นที่ส่วนใหญ่นั่งท้ายและเเคปไปเรียนนังสือ ปฎิบัติศาสนกิจ ไปงานการกุศล เยี่ยมญาติทั้งผู้ป่วย หรือถูกดำเนินคดีตามค่ายทหาร สถานีตำรวจ เที่ยวตามเทศกาลต่างๆ และอื่นๆ
ผู้ประกอบการ มีรถสองแถวบริการจากหมู่บ้าน ไปอำเภอหรือในเมือง จนจัดตั้งเป็นสหกรณ์รถสองแถวทุกอำเภอ ชาวบ้านซื้อรถสองแถวมาทำธุรกิจส่งนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆทั้งโรงเรียนรัฐ และเอกชน โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
เจ้าหน้าที่รัฐ ใช้รถกระบะนับร้อยคัน มีเจ้าที่นั่งหลังหลายคนถือปืน ทั้งสั้น ทั้งยาว คอยราดตระเวน ทั้งถนนทางหลวง ถนนเอเชีย และในหมู่บ้านแถมบางคันไม่ติดป้ายทะเบียน
สิ่งเหล่านี้เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐชายแดนใต้ ที่ใช้รถใช้ถนนผ่านด่านนับร้อย อีกทั้งถูกบันทึกด้วยกล้องวงจรปิด หากพฤติกรรมการใช้รถแบบนี้มีมานานนับสิบปี มันไม่ใช่จะปรับได้ภายในวันเดียว มันต้องใช้เวลา รัฐต้องมีทางออกให้ประชาชน ที่สำคัญให้ทางออกคนของรัฐในพื้นที่ด้วย
ผู้เขียนเห็นด้วยกับในความหวังดีของรัฐ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนแต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบในการประกาศว่าสามารถปฏิบัติได้ทันทีหรือไม่โดยเฉพาะคนของรัฐที่ชายแดนใต้มิฉะนั้นประชาชนเองก็จะไม่เคารพกฎหมายเพราะคนของรัฐก็ยังไม่สามารถปฏิบัติได้เช่นกัน
ดังนั้นการมีเวลามากพอสมควรให้คนของรัฐปฎิบัติได้ก่อนหลังจากนั้นประชาชนก็ค่อยๆปรับตัวปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าพร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเพื่อให้เขามีกำลังซื้อรถที่ถูกกฏหมายและรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ถึงโทษภัยในการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร
ที่สำคัญอีกอย่างในมาตราการนี้จะต้องไม่จับคนใช้รถอย่างเดียวเเต่ต้องใช้มาตราการนี้กับบริษัทที่ผลิตรถด้วยเข่นกัน
สำหรับอีกข้อเสนอเเนะหนึ่งต่อรัฐคือการบริการสาธารณะด้านการขนส่งที่มีมาตฐาน ทันยุค 4.0 ราคาประหยัด ในการบริการประชาชนซึ่งยังขาดอยู่อย่างมากที่ชายเเดนใต้
เมื่อไร เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน พร้อมรวมถึงทางฝั่งผู้ผลิตรถยนต์เองจะได้ทราบ ว่ากระบะแคปในวันหน้าจะยังได้รับความสนใจจากลูกค้าไหม เพราะไม่เช่นนั้น พวกเขาจะได้ไม่ต้องเสียเงินลงทุนผลิตออกมาขาย ทำแค่ กระบะหัวเดี่ยวกับ กระบะสี่ประตูขาย จะได้ไม่ส่งเสริมให้คนทำผิดกฎหมาย ..ดีไหม