Skip to main content

 

เปอร์มัสจัดกิจกรรมวันมนุษยธรรมปาตานี

 

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์ 
ปัตตานี
 
    TH-students-620
    นักศึกษากลุ่มเปอร์มัส เดินขบวนรณรงค์ให้มีการปกป้องผู้บริสุทธิ์ เนื่องในบันมนุษยธรรมปาตานี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560
    เบนาร์นิวส์
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในวันศุกร์ (3 กุมภาพันธ์ 2560) นี้ ตัวแทนสหพันธ์นิสิต นักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปัตตานี (PERMAS - เปอร์มัส) จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “กางร่มแห่งสันติภาพ” ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสี่แห่งในเขตภาคใต้ เพื่อเรียกร้องการปกป้องพลเรือนในภาวะสงคราม เนื่องในวันมนุษยธรรมปาตานี หรือวันรำลึกการสังหารครอบครัวมะมัน ปี 2557

    วันมนุษยธรรมปาตานี เป็นวันที่ตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สังหารสมาชิกครอบครัวมะมัน ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 143/4 หมู่ 7 บ.ปะลุกาแปเราะ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยคนร้ายจำนวนหนึ่งใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่บ้านของครอบครัวมะมันจนเป็นเหตุให้ ด.ช.มูยาเฮด มะมัน อายุ 11 ปี ด.ช.บาฮารี มะมัน อายุ 9 ปี และ ด.ช.อิลยาส มะมัน อายุ 6 ปี เสียชีวิต ขณะที่นายเจะมุ มะมัน บิดา และน.ส.พาดีละห์ แมยู มารดาได้รับบาดเจ็บ

    นายอารีฟีน โซ๊ะ ประธานเปอร์มัส เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กลุ่มเปอร์มัสได้จัดกิจกรรมเชิญสัญลักษณ์ที่หน้ามหาวิทยาลัยสี่แห่งประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เพื่อเรียกร้องให้เกิดความตระหนักถึงการเคารพเพื่อนมนุษย์

    “จุดมุ่งหมายของงานรณรงค์นี้คือ การสร้างความตระหนักของสังคมและเป็นการสื่อสารถึงคู่ขัดแย้ง ให้เคารพต่อหลักมนุษยธรรมสากล หรือกติกาสงคราม การสูญเสียของครอบครัวมะมันเป็นบทเรียนสำคัญของพลเรือน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาวะการขัดกันด้วยอาวุธ เป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล หรือกติกาสงคราม เราเลยเลือกวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันมนุษยธรรมปาตานี” นายอารีฟีนกล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

    นายซุฟยาน (สงวนนามสกุล) เยาวชนในจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์สังหารสมาชิกครอบครัวมะมัน เป็นเหตุการณ์ที่สังคมรับรู้เป็นอย่างดี การรณรงค์จึงเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก

    “เหตุการณ์ที่เกิดกับครอบครัวนายเจะมุ มะมัน เขาและภรรยาบาดเจ็บ และลูกเสียชีวิต 3 ราย พวกเขาเป็นชาวบ้าน คนที่ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่มีความแค้นส่วนตัว และสามารถจับได้เป็นเคสที่ชัดเจน เห็นด้วยที่ต้องมีการรณรงค์ให้มีการยุติและต้องไม่เกิดขึ้นอีก” นายซุฟยานกล่าว

    นอกจากการรณรงค์ที่หน้ามหาวิทยาลัยทั้งสี่แห่งดังกล่าวแล้ว กลุ่มเปอร์มัสยังได้รณรงค์ให้สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊คเปลี่ยนรูปประจำตัวของตนให้เป็นรูปการกางร่ม เพื่อแสดงถึงการเข้าร่วมการรณรงค์ครั้งนี้ด้วย โดยระบุว่าเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนปาตานี มีสิทธิที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรี ดำรงไว้ซึ่งความเป็นตัวตนของชนชาติ และอนาคตทางการเมืองของคนปาตานี

    หลังจากเหตุสังหารบุตรชาย 3 คนของครอบครัวมะมัน 1 มีนาคม 2557  เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุครั้งนั้นได้ คือ อส.ทพ.มะมิง บินมามะ อายุ 21 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4607 กรมทหารพรานที่ 46 และ อส.ทพ.ซากือระ เจ๊ะแซ อายุ 25 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4609 กรมทหารพรานที่ 46 เบื้องต้นทั้งคู่รับสารภาพว่า เป็นผู้ร่วมก่อเหตุยิงดังกล่าวร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ซึ่งยังหลบหนีอยู่จริง เนื่องจากเชื่อว่านายเจะมุ บิดาของเด็กทั้ง 3 คนที่เสียชีวิต เป็นผู้ก่อเหตุยิงนายอับดุลเลาะ บินมามะ ซึ่งเป็นพี่ชายของตน และพี่สะใภ้เสียชีวิตในปี 2556

    ต่อมาในวันที่ 26 มกราคม 2558 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อส.ทพ.มะมิง บินมามะ และ อส.ทพ.ซากือระ เจ๊ะแซ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ โดยในวันศุกร์นี้ พล.ต.ต. พัฒนวุธ อังคะนาวิน รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รอง ผบ.ศชต.) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่ออุทธรณ์คดีดังกล่าวต่อไป

    ทหารพรานถูกยิงเสียชีวิตขณะเดินทางไปละหมาด

    ในวันเดียวกันนี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ฉก.ทพ. 43 บริเวณหน้ามัสยิด ในบ้านตะโละ ตำบลตะโละ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ อส.ทพ.ซัมนูซี ยูโซ๊ะ

    ร.ต.อ. บดินทร์ วงศ์อำนาจ รอง สว.สอบสวน สภ.ราตาปันยัง เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งเหตุ กล่าวว่า จากการสอบสวน ทราบว่าผู้ตายกำลัง เดินทางไปละหมาด ระหว่างทางได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่ ก่อนหลบหนีไป ซึ่งร.ต.อ. บดินทร์ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นส่วนตัว