Skip to main content

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2556 ในรายการ “Dunia Hari Ini (โลกวันนี้)” ทางสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันสบาตันเปิดคลิปบันทึกเสียงของสัมภาษณ์ อุสตาซฮัสซัน ตอยิบ หัวหน้าทีมการพูดคุยฝ่ายขบวนการ BRN การสัมภาษณ์ครั้งนี้ดำเนินโดยนักข่าวอาวุโสคุณ Astora Jabat (เช่นเดียวกันกับบทสัมภาษณ์ครั้งที่แล้ว) หัวข้อหลักของการสัมภาษณ์ครั้งนี้คือคำอธิบายเกี่ยวกับเอกสาร 38 หน้า ซึ่งเป็นคำอธิบายอย่างระเอียดเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่ฝ่าย BRN ได้ส่งไปถึงฝ่ายรัฐบาลไทยผ่านทางผู้อำนวยความสะดวก (รัฐบาลมาเลเซีย) บทสัมภาษณ์มีสาระสำคัญสองประเด็น ได้แก่ ๑. ท่าทีของ BRN ที่มีต่อการพูดคุยต่อไป และ ๒. คำอธิบายของข้อที่สี่ซึ่งว่าด้วย “สิทธิความเป็นเจ้าของของชาวมลายูปาตานี” 

ในบทนี้ ผู้เขียนขอนำเสอนข้อสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับประเด็นแรก ส่วนประเด็นที่สอง ท่านสามารถดูี่รายละเอียวได้จากรายงานข่าวของ Deep South Journalism 


http://www.deepsouthwatch.org/dsj/4814#sthash.jlkn2QQr.dpuf

ศูนย์ข่าวอิศรา 

http://www.isranews.org/south-news/scoop/item/23948-ทีมข่าวอิศรา_23948.html

เอกสาร 38 หน้าฉบับนั้นมาจากไหน 

อุสตาซฮัสซันได้อธิบายว่า ฝ่าย BRN ไม่มีความประสงค์ใดๆ ที่จะให้คำอธิบาย แต่รอคำตอบจากฝ่ายรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นฝ่าย BRN ก็ได้ทราบผ่านฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกว่า ฝ่ายรัฐบาลไทยต้องการคำอธิบายที่ละเอียดเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 5 ข้อ นอกจากนี้ ฝ่าย BRN ก็รับปากในการพูดคุยว่าจะให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงฝ่าย BRN ก็เตรียมเอกสารดังกว่าว 

อุสตาซฮัสซันยืนยันว่า เนื้อหาของเอกสาร 38 หน้าทั้งหมดนี้มาจากแกนนำของ BRN (หมายความว่า ไม่ใช่ผลิตโดยฝ่ายมาเลเซียหรือทีมเจรจา) และต้นฉบับที่ผลิตโดยฝ่าย BRN เป็นฉบับภาษามลายู หลังจากนั้น ฝ่าย BRN ก็ส่งต้นฉบับนั้นไปยังฝ่ายผู้อำนวยความสะดวก และต้นฉบับนั้นแปลโดยผู้เชี่ยวชาณจากฝ่ายมาเลเซียเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย (หมายถึง เนื้อหาต้นฉบับภาษามลายูนั้นเป็นความรับผิดชอบของบฝ่าย BRN ส่วนการแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยนั้นเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายผู้อำนวยความสะดวก) หลังจากนั้น ฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกให้อุสตาซฮัสซันเซ็นชื่อทุกหน้าและฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกก็ส่งไปถึงฝ่ายรัฐบาลไทย 

ตามคำสัมภาษณ์ของอุสตาซฮัสซัน ตอยิบ ที่มาของเอกสารดังกล่าวนั้นสามารถสรุปได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้ 

- ฝ่ายรัฐบาลไทยส่งหนังสือขอคำอธิบายถึงข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ไปถึงผู้อำนวยความสะดวก 
- ฝ่าย BRN เตรียมต้นฉบับของเอกสารคำอธิบาย (ซึ่งเนื้อหานั้นมาจากแกนนำขององค์กร) เป็นภาษามลายู 
- ฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกแปลเอกสารดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย 
- ฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกส่งฉบับแปลของเอกสารดังกล่าว (พร้อมต้นฉบับ?) ไปถึงฝ่ายรัฐบาลไทย 

หลังจากนั้น สื่อบางรายก็ได้รับเอกสารดังกล่าว และเปิดเผยเนื้อหาตามความเข้าใจของตน แต่อุสตาซฮันซันก็กล่าวว่า ยังมีความเข้าใจผิด และส่วนใหญ่แสดงความเห็นซึ่งความจริงแล้วแค่เป็นการสันนิษฐานเอง 

สิ่งที่ BRN ต้องการ ณ ขณะนี้คืออะไร 

ฝ่าย BRN ไม่ได้ขอให้ฝ่ายรัฐบาลไทยรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อ แม้แต่ข้อเดียว สำหรับตอนนี้ ฝ่ายรัฐไม่จำเป็นต้องให้คำตอบใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ BRN แค่ต้องการให้ฝ่ายรัฐตกลงที่จะพูดคุยข้อเรียกร้องแต่ละข้อในรอบๆ ต่อไปของสันติสนทนา (การพูดคุยสันติภาพ) เท่านั้น ฝ่าย BRN ก็ตระหนักว่า การพูดคุยเรื่องสำคัญเช่นนี้ต้องใช้เวลาอันยาวนานด้วย 

ความพร้อมของฝ่าย BRN ยังเห็นได้จากการยืนยันที่ว่าจะจัดทีมเจรจาใหม่ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 15 คนที่มีความเหมาะสม นำโดยหัวหน้าทีมจาก BRN (รายละเอียดขอดูข่าวในลิงค์ข้างบน) อุสตาซฮัสซันเองก็ได้กล่าวว่า ท่านเองก็ไม่ทราบว่าใครจะอยู่ในทีมเจรจาใหม่ ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ฝ่าย BRN จะเลือกบุคคลที่ “มีความเหมาะสมมากกว่า” ซึ่งเป็นตัวชีวัดอีกตัวหนึ่งที่แสดงถึงความพร้อมของ BRN ที่จะดำเนินสันติสนทนากับฝ่ายรัฐบาลไทยต่อไป 

ในเมื่อฝ่ายรัฐบาลตกลงที่จะดำเนินสันติสนทนา (การพูดคุยสันติภาพ) ต่อไป ฝ่าย BRN จะพิจารณามาตรการลดความรุนแรงพร้อมกับฝ่ายรัฐบาลไทย ที่สำคัญ อุสตาซฮัสซันก็ได้ยืนยันว่า ฝ่าย BRN ไม่เรียกร้องการแบ่งแยกดินแดน 

อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลไทยได้รับเอาสาร 38 หน้าดังกล่าว มีผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน รวมไปถึงนักการเมืองฝ่ายค้านและบุคคลสำคัญจากฝ่ายความมั่นคงเช่น ท่านหน.ทบ. ได้ให้คำตอบเชิงปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่คนเหล่านี้ยังไม่เข้าใจว่า ฝ่าย BRN ไม่ต้องการคำตอบ ณ ตอนนี้ แต่แค่แสดงความพร้อมที่จะพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาลไทยเท่านั้น 

อีกอย่าง อุสตาซฮัสซันก็ยืนยันว่า สิ่งที่ฝ่าย BRN เรียกร้องนั้นคือต้องการให้ฝ่ายรัฐบาลไทยยอมรับสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเองของชาวมลายูปาตานี รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการปกครองในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องพูดคุยกันต่อไป