Skip to main content
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ประณามเหตุคนร้ายฆ่าเด็ก 3 ศพ โหดร้ายไร้มนุษยธรรม แนะรัฐ-กอ.รมน.-ตำรวจ สืบหาตัวคนผิดลงโทษ เพิ่มมาตรการรักษาความสงบ และให้ความช่วยเหลือเยียวยา
       

วันนี้ (5 ก.พ.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่มีนางอมรา พงศาพิชญ์ เป็นประธาน ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและสตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเห็นว่ากรณีเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 3 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นมารดาเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ประกอบกับมารดาอยู่ภาวะตั้งครรภ์ด้วยนั้น ถือเป็นความรุนแรงที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นภายหลังที่ผู้สูญเสียกลับจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และผู้ที่เสียชีวิตเป็นเด็กสตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่ง กสม.ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว

ขอบคุณภาพจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์
(รูปภาพของ นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.))
 

ทั้งนี้ กสม.มีข้อเสนอแนะให้รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชน ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กลุ่มเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการคุ้มครอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชน ในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ให้กลับคืนมา นอกจากนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
       
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ต่อไป