Skip to main content

เผยแพร่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 (Updated)

แถลงการณ์

แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ระเบิดที่จังหวัดนราธิวาส

เสนอแนะให้ทุกฝ่ายอดทนอดกั้น ยึดมั่นแนวทางสันติ

 

 

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่  20  กุมภาพันธ์ 2558 ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่สาธารณะ​ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บจำนวน 15 รายในจำนวนที่ทราบรายชื่อพบว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 2 ราย นอกนั้นเป็นพลเรือนโดยเฉพาะมีผู้หญิงจำนวน  8 ราย  โดยเหตุเกิดในอำเภอเมือง จังหวัด นราธิวาส

แม้ว่าจะมีความพยายามของหน่วยฝ่ายความมั่นคงด้วยความร่วมมือของหลายฝ่ายในการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่มีกิจกรรมที่สำคัญ เช่น เทศกาลตรุษจีน  การเดินสานใจสู่สันติชายแดนใต้ระหว่างวันที่ 15-21 กุมภาพันธ์ การติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยและพบอาวุธอย่างต่อเนื่องอาจเป็นผลให้เกิดการโต้ตอบ รวมทั้งความพยายามในการนำการพูดคุยสันติภาพขึ้นมาสู่โต๊ะเจรจาของฝ่ายรัฐบาลในระยะเวลาอันใกล้นี้ ข้อสังเกตเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลหรือการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อสารไปได้ว่ากลุ่มก่อความไม่สงบยังมีศักยภาพในการก่อเหตุด้วยอนุภาพอาวุธร้ายแรงเช่นระเบิดในที่สาธารณะได้

แม้จะมีข้อกล่าวอ้างข้างต้นแต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะสร้างความชอบธรรมให้กับการวางระเบิดโดยไม่มีเป้าหมายทางการทหารอย่างชัดเจน การวางระเบิดมุ่งประสงค์่ต่อความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เป็นอาชญกรรมที่โหดร้าย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สิน แต่ยังส่งผลระยะยาวถึงศักยภาพของประชาชนในการดำรงชีวิต ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ทั้งจากความพิการ หรือผลกระทบทางด้านจิตใจที่กว่าจะฟื้นคืนได้ต้องใช้เวลายาวนาน ดังที่ปรากฏในรายงานเหตุระเบิดเมืองปัตตานีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ของกลุ่มด้วยใจ​ นอกจากนี้ เหตุระเบิดยังเป็นการส่งเสริมให้วงจรของความรุนแรงยังคงอยู่  นอกจากนี้ยังส่งผลลบต่อบรรยากาศการเจรจาสันติภาพซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและกลุ่มด้วยใจ และ ศราวุฒิ อารีย์  ขอเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธไม่ว่าฝ่ายใดหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธประหัตประหารและก่อเหตุทางทหารในพื้นที่สาธารณะเพื่อหลี่กเลี่ยงความเสียหายต่อผู้บริสุทธิ์ การนำบุคคลต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต้องเคารพหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด  การเยียวยาให้ความช่วยเหลือต่อผู้เสียหายทั้งทรัพย์สินและผู้ได้รับบาดเจ็บจะต้องดำเนินการอย่างทันทีเหมาะสมเพียงใด รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในระยะยาว  ความอดทนอดกลั้นของทุกฝ่ายจะช่วยปกป้องคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ ระหว่างทางที่หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนี้ด้วยแนวทางสันติวิธี

 

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ  0867093000,  อัญชนา หีมมิหน๊ะ 0818098609