Skip to main content

 

แถลงการณ์ วันที่ 3 ของการเดิน “ต่อลมหายใจชายแดนใต้”

“คนชายแดนใต้ขอกำหนดอนาคตตนเอง ”

 

ขบวนเดินรณรงค์ “ต่อลมหายใจชายแดนใต้ ได้เดินมาเป็นวันที่ 3 ซึ่งันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมการเดินเพื่อต่อลมหายใจชายแดนใต้ ซึ่งจะปิ้นสุดที่บ้านคลองประดู่ อำเภอเทพาจังหวัดสงขลา จุดที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

การออกเดินได้เริ่มเดินจาก มอ.ปัตตานีในเช้าวันที่ 8 เมษายน 2559 โfยได้พักค้างคืนที่บ้านบางตาวา อำเภอหนองจิก และมีการเสวนาในช่วงค่ำ ซึ่งมีข้อสรุปที่สำคัญคือ การรับรู้ของประชาชนต่อโครงการขนาดใหญ่เช่นโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพามีน้อยมาก ส่วนใหญ่ไม่รู้ ที่พอรู้ก็ไม่มีใครรู้รายละเอียด ไม่ทราบถึงผลดีผลเสียใดๆ ทั้งๆที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในพื้นที่ชายแดนใต้ แท้จริงนี่ไม่ใช่โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา แต่คือโรงไฟฟ้าถ่านหินชายแดนใต้ ไม่ใช่โรงไฟฟ้าเล็กๆของคนเทพาหรือสงขลาเท่านั้นที่จะร่วมตัดสินใจ แต่ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมของคนชายแดนใต้ว่าจะเอาหรือไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จะเอาหรือไม่เอาการพัฒนาแบบล้างผลาญ ผลาญทั้งภาษีประชาชน ผลาญทั้งงบประมาณ และผลาญทรัพยากรและวิถีวัฒนธรรมอันงดงามของพื้นที่

ต่อมาวันที่ 9 เมษายน 2559 ก็ได้มีการเดินทางต่อและมาพักที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี การเสวนาในช่วงค่ำ ได้สะท้อนความรู้สึกที่ไม่ไม่เคารพอัตลักษณ์คนพื้นที่ เรพราะต้องย้ายชาวบ้านออกนับพันคน ต้องย้ายวัดมัสยิดและกุโบร์(สุสาน) ซึ่งจะเป็นการสร้างเงื่อนไข เพิ่มความไม่เข้าใจต่อรัฐไทยในสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังไม่คลี่คลาย อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงประเด็นที่ฝ่ายความมั่นคงต้องคิดให้หนัก เพราะการกำเนิดของโครงการนี้อย่างฉ้อฉลและลักไก่ขาดการรับรู้และขาดการมีส่วนร่วม ขัดแย้งอย่างยิ่งกับแนวทางของนโยบายรัฐบาลตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 230 ที่กำหนดแนวทางแก้ปัญหาไฟใต้ด้วยการเคารพการมีส่วนร่วมของพื้นที่ในทุกระดับเพื่อให้เกิดการร่วมแก้ปัญหาอย่างสันติ

และในวันนี้ วันที่ 10 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินรณรงค์จากปัตตานีมุ่งสู่เป้าหมายบ้านคลองประดู่ อำเภอเทพา ที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาในอนาคต และร่วมเวทีการเสวนาที่มีตัวแทนจากหลายจังหวัดมาร่วมให้ข้อมูล คำถามสำคัญคือทิศทางอนาคตของภาคใต้ควรจะเดินไปในทิศทางใด ใครควรจะป็นผู้กำหนด ปัจจุบันนั้นทุนอุตสาหกรรมได้ผนวกรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ คสช.ในนามประชารัฐหรือแท้จริงคือธนารัฐ วาดหวังจะเปลี่ยนภาคใต้ให้เป็นอุตสาหกรรม วาดหวังจะเปลี่ยนชายแดนใต้ให้เป็นอุตสาหกรรมหนัก เมื่อต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นภาพรวมของโครงการทั้งหมดไม่ว่า ท่าเรือน้ำลึกปากบารา ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 สะพานเศรษฐกิจที่เชื่อมสองท่าเรือด้วยรถไฟรางคู่และนิคมอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมเหล็กที่ปานาเระ โครงการคลังน้ำมันและท่อส่งน้ำมันข้ามคาบสมุทร ดังนั้นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพารวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินปานาเระ จึงเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นมาบตาพุดสองนั่นเอง

การเดินรณรงค์ เพื่อ “ต่อลมหายใจชายแดนใต้” ใน 3 วันนี้ จึงเป็นการแสดงออกถึงเสียงของภาคประชาชนโดยสันติ ที่อุทิศแรงกายแรงใจเดินกลางแดดร้อน ด้วยความหวังให้เสียงของประชาชนและชุมชน สร้างการรับรู้และความตระหนักถึงภัยที่กำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้ ส่วนรัฐบาลจะรับรู้หรือไม่ ไม่สำคัญ เพราะรัฐบาลชุดนี้ได้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว และไม่เคยรับฟังเสียงประชาชนอยู่แล้ว

ภาคใต้ทั้งภาคควรเป็นพื้นที่สีเขียว ไม่มีสีม่วง เป็นพื้นที่อันอุดมระหว่างสองมหาสมุทรที่เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สะอาด ทั้งการประมงที่ยั่งยืน เป็นพื้นที่การท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝัน เป็นสวนยางสวนผลไม้สวนปาล์มสวนมะพร้าวที่เขียวชอุ่ม เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่สมบูรณ์ อากาศดี น้ำใสและดินอุดมปราศจากมลพิษจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นชุมชนที่มีดำรงอัตลักษณ์วัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันสุขสงบ นี่คือความฝันของคนใต้ และนี่คือความต้องการของคนชายแดนใต้เช่นกัน

สันติสุขสันติภาพในชายแดนใต้ ไม่ได้หมายถึงการไม่มีระเบิดไม่มีควันปืนเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการที่คนชายแดนใต้ต้องมีอนาคต อนาคตที่ใสสะอาดไม่มืดดำจาการพัฒนาอุตสาหกรรมถ่านหินอันสกปรก ต้องมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีบนฐานทรัพยากรตนเอง ไม่ใช่เหลือคุณค่าเพียงแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม

วันนี้ 10 เมษายน 2559 คนชายแดนใต้ขอประกาศว่า “เราต้องลมหายใจที่สะอาด เราไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและปานาเระ เราไม่ต้องการการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และเราคนชายแดนใต้ขอกำหนดอนาคตตนเอง และไม่ยอมรับในความหวังดีจอมปลอมที่แอบอ้างการพัฒนาแบบกอบโกยจากนายทุนอุตสาหกรรมและรัฐราชการที่ร่วมมือขีดวางสารพัดโครงการทำลายล้างในห้องแอร์ในเมืองหลวง โดยไม่เคยเคารพต่อสิทธิของภาคประชาชนในการร่วมตัดสินใจ”

 

เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ(PERMATAMAS)

เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน

เครือข่ายนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี เพื่อความเป็นธรรม

10 เมษายน 2559

อ่านแถลงการณ์ฉบับแรก   : แถลงการณ์ เชิญชวนพี่น้อง ร่วมเดินเพื่อ “ต่อลมหายใจ คนชายแดนใต้”

อ่านแถลงการณ์ฉบับที่สอง : แถลงการณ์ “ยุติภัยถ่านหิน ยุติเงื่อนไขของภัยแทรกซ้อนต่อสันติภาพ”