Skip to main content

 

แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี
ร่วมกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
ฉบับที่ : ๔/๒๕๕๗
เรื่อง กรณีความรุนนแรงต่อเด็กและพลเรือนปาตานี

 

เนื่องด้วยในห้วงเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา หลายเหตุการณ์สร้างความหวาดกลัวและสะเทือนใจต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก และเกิดความคลุมเครือในข้อมูลข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสุ่มเสียงต่อการส่งผลให้เกิดความไม่ยุติธรรมหรือไม่กับผู้สูญเสียและครอบครัวสูงมาก ดังเช่นกรณีเกตุการณ์กราดยิง เด็กชายลุกมาน อภิบาลแบ อายุ ๖ ปี ๒ เดือนและนายมุขตาร์ อาลีมามะ อายุ ๓๒ ปี เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน  พ.ศ.๒๕๕๗ ที่บ้านบาเจาะ ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายมุขตาร์ อาลีมามะ เป็นแกนนำคนสำคัญในพื้นที่คนหนึ่งที่ทางการต้องการตัวตามเป้าหมาย “แผนพรานพิฆาตไพรี”

 
และเมื่อวันที่  ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗ เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงนายดอรอแม ดาราเซะ นางอาอีเสาะ เฮงดาดา และเด็กหญิงนูรมาน ดาราเซะ อายุ ๒ ขวบ ส่งผลให้เสียชีวิตรวม ๓ ศพ ที่บ้านบันนังกูแว ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา  และเหตุการณ์ต่อเนื่องยิงชาวบ้านนายสะมาแอ  ยีแวเงาะ อายุ ๖๓ ปี ที่บ้านบือซู หมู่ที่ ๖ ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
 
ทั้งหมดได้เสียชีวิตท่ามกลางความกังขาของสังคมสาธารณะเป็นอย่างมาก เพราะการพยายามอธิบายของสื่อกระแสหลักนั้น ได้ชี้นำให้สังคมเข้าใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของนายมุขตาร์ อาลีมามะ ขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลค้าไม้เถื่อนในพื้นที่ และเป็นปมความขัดแย้งระหว่างสองตระกูลที่บ้านบันนังกูแว  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐแต่อย่างใด ซึ่งการอธิบายดังกล่าวของสื่อกระแสหลักนั้น พบว่าขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับการรับรู้และการสื่อสารของสังคมสาธารณะในพื้นที่ส่วนใหญ่
 
ตลอดระยะเวลา ๑๐ ปีกับสงครามที่ปาตานี ได้คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันรัฐไทยพยายามใช้กลไกต่างๆเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าการประกาศใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ทั้งสามฉบับและกองกำลังของรัฐจงใจติดอาวุธจำนวนมากเรือนแสน แต่ในทางกลับกันรัฐไทยไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้เลย หนำซ้ำยังเป็นการเพิ่มเงื่อนไขให้กิจกรรมการใช้อาวุธขยายตัวไปยังภาคประชาชนปาตานีกับประชาชนปาตานีกันเองมากขึ้น
 
อีกนัยหนึ่งของเหตุการณ์สลดใจที่มีเหยื่อเป็นเด็กและคนชราเป็นการส่อให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะรัฐล้มเหลว (Failed state) ในการคุ้มครองความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนท่ามกลางภาวะสงครามที่ปาตานี ซึ่งสภาพแบบนี้น่าสนใจว่าทำไมถึงได้เกิดหลังจากที่มีการพยายามพูดคุยสันติภาพที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างรัฐไทยกับขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติปาตานี (BRN) นั้นล้มเหลวแล้ว อาจจะเป็นนโยบายของรัฐไทยที่ไม่เปิดเผย หลังจากการเจรจาล้มเหลวหรือไม่
 

สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PERMAS) เป็นองค์กรร่มขององค์กรนักศึกษานักเรียน และเยาวชนปาตานี ที่มีจุดยืนทางการเมืองในการขับเคลื่อนสันติภาพ ตามเจตนารมณ์ความต้องการของประชาชนปาตานี โดยยึดหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนสากล ร่วมกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ขอแสดงความเสียใจและขอประณามผู้ปฎิบัติการที่ไร้ซึ่งหลักมนุษยธรรมตลอดจนเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

 
  • เรียกร้องให้สหประชาชาติ (UN) และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ พิจารณากำหนดท่าที่ที่สอดคล้องกับหลักการมนุษยธรรมต่อกรณีเด็กและพลเรือนทั่วไป ที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมทางอาวุธระหว่างรัฐไทยกับขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติปาตานี (BRN)  เพื่อปกป้องหลักมนุษยชนของพลเรือนในภาวะสงครามที่สังคมปาตานีขาดความไว้วางใจต่อกลไกความยุติธรรมของรัฐไทยที่สุ่มเสี่ยงเป็นรัฐล้มเหลว (Failed state) 
  • เรียกร้องให้สหประชาชติ (UN) มีมาตรการให้หลักประกันความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ละเมิดและคุกคามมนุษยธรรมต่อพลเรือนปาตานี เพื่อสามารถนำเสนอข้อเท็จจริงให้ปรากฏต่อสาธารณะได้
 
ด้วยจิตรักสันติภาพ
สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PERMAS)
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
๒๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗