เผยแพร่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560

สองสามวันที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวการต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน มีผู้คนไปรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาลมากมาย มีแม้แต่การควบคุมตัวแกนนำ

เหตุการณ์เหล่านี้ มันเป็นการสร้างความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชน กับรัฐบาล เพราะฉะนั้น คำกล่าวที่ว่า "ฟังเสียงประชาชน" แทบไม่มีความหมายสำหรับรัฐบาล

ส่วนตัวแล้ว ในสิ่งที่หลายๆ คนกำลังสื่อสารถึงรัฐบาล ที่มาโดยวาทกรรมอาสามาจัดระเบียบ สร้างความปรองดอง ต้องฟังเสียงประชาชน ต้องเอาฐานประชาชนเป็นหลัก ใช้ความต้องการของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ รัฐ เหมือนจะไม่สนใจกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

หมายเหตุ: หลังจากรายการสารคดีก(ล)างเมือง ตอน "ห้องเรียนเพศวิถี" เผยแพร่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 การถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นปัญหาเพศวิถีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็กลายเป็นบทสนทนาที่ร้อนแรงกว้างขวาง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เรามีโอกาสได้นั่งลงสนทนากับ ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ นักปรัชญาการเมืองชาวมุสลิมแห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งได้นำพาไปยังสาระอันหลากหลายที่ซ้อนและซ่อนอยู่ภายใต้การโต้แย้งที่ปรากฎขึ้นนี้ โดยมี รอมฎอน ปันจอร์ บรรณาธิการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เป็นผู้ตั้งคำถามชวนคุย การสนทนาครั้งนี้บันทึกเทปไว้เมื่อบ่ายวันที่ 14 กุมภาพั

แอมเนสตี้ย้ำทางการไทยถอนฟ้องสามนักปกป้องนักสิทธิมนุษยชน

ที่เผยแพร่รายงานการทรมานภาคใต้

แนวคิดปฏิวัติในเรื่องผู้หญิง

เมาลานา ซัยยิต อบุล หะซัน อลี อัน นัดวียฺ

color:black">ตอนที่ color:black">4 สานเสวนาชุมชนพ่อมิ่ง กับการเปลี่ยนแปลง ตอนที่ 2

เรื่องราวของชาวปาตานีและขนมเบเกิล

แถลงการณ์ประชาชนชายแดนใต้

“การยกระดับการเคลื่อนไหว หากรัฐบาลตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่”